กาฬสินธุ์ 24 มี.ค.61- หนึ่งในผู้รอดชีวิตยังเต็มไปด้วยความเศร้าโศกกับการสูญเสียญาติและเพื่อนสนิทจากอุบัติเหตุโศกนาฏกรรมรถบัส เชื่อพระคุ้มครองให้รอดตาย เผยก่อนเกิดเหตุรถเสียหลักเซไปเซมา ก่อนมีเสียงโครมดังสนั่น ผู้โดยสารต่างวิ่งหลบมาชั้นล่างเพื่อเอาชีวิตรอด
ที่วัดป่าพุทธมงคล นางประจิม ถิตย์ประไพร อายุ 63 ปี ชาวกาฬสินธุ์ หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถบัสท่องเที่ยวพลิกคว่ำที่เขาวังน้ำเขียว สภาพตามร่างกายยังมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้าด้านขวา มีรอยช้ำปรากฏอย่างชัดเจน ซึ่งตลอดทั้งวันได้มาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพเหยื่อผู้เสียชีวิต และช่วยงานทางเจ้าภาพ โดยได้ถือโอกาสจุดธูป บอกกล่าวให้ผู้เสียชีวิตไปสู่สุคติในภพภูมิที่ดี พร้อมเล่าวินาทีชีวิตระหว่างความเป็นและความตายในอุบัติเหตุอันน่าสยองที่มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
นางประจิม เล่าว่า ตนสนิทกับนางสมพิศ สิทธิชุม มาก เพราะเป็นทั้งญาติและคนในหมู่บ้านเดียวกัน อีกทั้งยังเคยร่วมเดินทางไปเที่ยวและทำบุญด้วยกันอยู่เสมอ ในครั้งนี้เดิมทีจะไม่ร่วมเดินทางไป แต่ถูกชักชวนหลายรอบ จึงตัดสินใจไปโดยจ่ายเงินค่าเดินทางตลอดทริปรวมค่าอาหารที่พักเป็นเงินกว่า 3,100 บาท ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุรถได้วิ่งมาด้วยความเร็วและเริ่มเซไปมา ระหว่างนั้นตนนั่งอยู่บนชั้น 2 ตัวรถโยกไปมาแรงขึ้นๆ จึงตัดสินใจเดินลงมาที่ชั้น 1 เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น และตะโกนให้คนขับรถหยุดรถ จากนั้นไม่ถึง 3 นาที ก็เกิดเสียงตูมดังสนั่น ตนยังพอมีสติ จึงร้องให้คนมาช่วยดึงตัวออกจากซากรถ ตอนนั้นทั้งตื่นกลัว ตกใจ มองไปรอบๆ พบเห็นแต่คราบเลือด และเสียงร้องไม่ขาดสาย เมื่อรอดออกมาได้คิดถึงแต่พุทธคุณของพระที่ติดตัวไปทั้งล็อกเก็ตของหลวงปู่หนูอินทร์ พระเกจิที่ตนกราบไหว้มาตั้งแต่เด็ก รวมถึงพระอื่นๆ ประมาณ 3-4 องค์ เสียใจกับการสูญเสียญาติ เพื่อน และคนรู้จักผู้เสียชีวิตทั้งหมด 18 คน มีความผูกพันรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการร่วมเดินทางไปทำบุญตามสถานที่ต่างๆ
ทั้งนี้ ก่อนจะเดินทางได้ฝันว่า มีเครื่องบินตกกลางหมู่บ้าน แต่ไม่ได้เอะใจอะไร ได้แต่เล่าให้น้องและหลานๆ ฟัง จนถึงวันเกิดเหตุ จึงคิดว่านี่คือลางบอกเหตุ ทำให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่
ส่วนกรณีคนขับที่เสพยาบ้าอยากให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ส่วนการดำเนินการด้านค่าชดเชยสำหรับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ทาง คปภ.จ.กาฬสินธุ์ แจ้งว่าได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วจำนวน 10 ราย ส่วนที่เหลือญาติยังไม่สะดวกเพราะบางครอบครัวยังมีคนเจ็บต้องรักษาและบางครอบครัวเสียชีวิตทั้งหมด
กรณีอุบัติเหตุรถทัวร์ลงเขาวังน้ำเขียว เสียหลักพุ่งข้ามถนน 4 เลนชนต้นไม้และร้านค้าพลิกคว่ำระเนระนาด มีผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก หลังเกิดเหตุคนขับรถทัวร์ตีนผีหลบหนี ก่อนถูกจับกุมขณะเดินโซซัดโซเซอยู่ในหมู่บ้านห่างจากจุดเกิดเหตุ 7 กม. ทราบชื่อคือ นายกฤษณะ จุฑาชื่น อายุ 44 ปี เบื้องต้นรับสารภาพว่า เสพยาบ้า 2 ครั้งขณะพาคณะทัวร์เดินทางจาก จ.กาฬสินธุ์ ไปเที่ยวทะเลที่ จ.จันทบุรี ถูกแจ้ง 4 ข้อหาคือ ขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่หยุดให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เสพยาบ้าแล้วขับรถ และขับรถเร็วเกินป้ายเตือนกำหนด ล่าสุดร่างกายบอบช้ำหนักถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ยังไม่ได้สอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา
ขณะที่ผู้บาดเจ็บเหยื่อรถทัวร์มรณะ ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 2 แห่งใน จ.นครราชสีมา รวม 6 ราย คือ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 4 ราย ประกอบด้วย 1. ด.ช.ศักดิ์ดินนท์ ทานวาวแวว อายุ 5 ปี (ห้องศัลยกรรมเด็ก) 2. ด.ช.จักรวาล ทิดถนอม อายุ 11 ปี (ห้องไอซียู) 3. นายศักดิ์ศรี ไชยกำปัง อายุ 52 ปี (ห้องศัลยกรรมอุบัติเหตุชาย) 4. น.ส.เอมอร สุทธิชุม อายุ 45 ปี (ห้องไอซียู) และโรงพยาบาลกรุงเทพ 2 ราย คือ 5.นางรัชนก ภูเงินเหรียญ อายุ 44 ปี และ 6. นางบุญเส็ง การีรัตน์ อายุ 50 ปี
ด้านนายจักรกฤษณ์ บุญเรืองศรี ผอ.แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 3 แจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นทาง 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี ช่วงขึ้นเขาลงเขาวังน้ำเขียว เป็นถนน 4 เลน คดเคี้ยวลาดชันยาว 6 กม. อยากฝากกรณีอุบัติเหตุใหญ่ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ แม้สภาพถนนดีมีป้ายเตือนตลอดทางให้ระมัดระวัง มีไฟฟ้าส่องสว่าง มีแนวคอนกรีตสูง 80 เซนติเมตร กั้นกลาง แต่ต้องมีความพร้อมทั้งสภาพรถและตัวคนขับ ต้องไม่ประมาท รถยนต์โดยเฉพาะรถขนาดใหญ่ทั้งรถบัส รถบรรทุก ต้องตรวจเช็กสภาพให้พร้อม เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบนถนนสายนี้ซ้ำอีก.-สำนักข่าวไทย