fbpx

รัฐเร่งขับเคลื่อนนโยบายรองรับสังคมผู้สูงอายุ

ทำเนียบฯ 21 มี.ค. – “พล.อ.ฉัตรชัย” นำทีมรัฐมนตรีด้านสังคม ชี้แจงผลงานรัฐบาล เร่งขับเคลื่อนนโยบายรองรับสังคมผู้สูงอายุ การเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข ตั้งเป้าลดปัญหาน้ำท่วมชุมชนเมืองภายในปี 2568


พล.อ.ฉัตรชัย  สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี  นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และนางไพรวรรณ  พลวัน รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์  ร่วมกิจกรรม “สื่ออยากรู้ รัฐบาลอยากเล่า” ครั้งที่ 2 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อชี้แจงความคืบหน้าการขับเคลื่อนงานของรัฐบาล

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป้าหมายการทำงาน คือ ประชาชนต้องสุขภาพดี เข้าถึงสาธารณสุข ซึ่งจากการเริ่มโครงการดูแลผู้ป่วยวิกฤตให้สามารถเข้ารับบริการกรณีฉุกเฉินในโรงพยาบาลใกล้จุดเกิดเหตุได้โดยไม่ต้องสำรองเงินค่าใช้จ่าย 72 ชั่วโมงแรก ตลอดระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 -28 กุมภาพันธ์ 2561 มีผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต 14,180 คน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชนในการรักษาพยาบาล ทำให้สามารถลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ การเข้าถึงบริการสาธารณะสุขให้ประชาชนได้ รวมถึงจะนำปัญหาที่พบมาปรับแก้ไข


พล.อ.ฉัตรชัย  ยังชี้แจง เรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำว่า รัฐบาลได้เดินหน้าจัดทำประปาหมู่บ้าน 7,234 แห่ง และจะจัดทำเพิ่มอีก 256 แห่งคาดแล้วเสร็จปี 2562 ซึ่งจะทำให้ทุกหมู่บ้านของประเทศไทยมีน้ำประปาใช้อุปโภคบริโภค ส่วนสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ในแหล่งน้ำต่าง ๆ มีน้ำอยู่ร้อยละ 73 ของความจุ ดังนั้นจะมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดฤดูแล้ง จากการสำรวจพื้นที่นาปรังเสี่ยงขาดแคลนน้ำใน 74 อำเภอ 23 จังหวัด ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมมาตรการรองรับ เช่น การทำฝนเทียม เป็นต้น ส่วนการเพิ่มขีดความสามารถในการระบายน้ำและป้องกันน้ำท่วมเมือง ได้ขุดลอกลำน้ำสายหลักได้ 292 กิโลเมตร จัดการป้องกันน้ำท่วม และแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อให้น้ำท่วมในเขตเมืองลดลง ภายในปี 2568 รวมถึงปรับปรุงคุณภาพน้ำ

นางไพรวรรณ  พลวัน รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ กล่าวชี้แจงเรื่องการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยเริ่มจากมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิต จัดกิจกรรมฝึกอาชีพ สร้างรายได้ เน้นการออม และดูแลสุขภาพ ซึ่งจะยกระดับศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ ระดับตำบลและอำเภอทั่วประเทศ พร้อมให้มีกองทุนผู้สูงอายุ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนกิจกรรมขององค์กรที่ดำเนินการเกี่ยวกับผู้สูงอายุให้มีความเข้มแข็ง เป็นทุนใช้จ่ายการคุ้มครอง ส่งเสริม สนับสนุนผู้สูงอายุให้มีศักยภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีเงินทุนหมุนเวียน 437 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมเงินทุนประกอบอาชีพ ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณต่อเนื่องทุกปี

รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า รัฐบาลได้จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ในปี 2561 จำนวน 8.3 ล้านคน งบประมาณ 66,000 ล้านบาท โดยมีแนวทางในการลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการเชิญชวนบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้ เข้ากองทุนผู้สูงอายุ ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ปัจจุบันมีผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เข้ากองทุนฯ 381 คน เป็นเงิน 255,300 บาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME