ก.คลัง 21 มี.ค. – รองนายกรัฐมนตรีพอใจส่งออก ก.พ.โตร้อยละ 10.3 คาดยังโตต่อเนื่อง หลายปัจจัยบวกเริ่มเห็นผล ศูนย์วิจัยบางแห่งยอมรับแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดัชนีหุ้นไทยพุ่ง 1,900 จุด ไทยพร้อมเข้าร่วมทั้ง TPP และ RCEP
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ขยายตัวได้ร้อยละ 10.3 ขณะที่ส่งออก 2 เดือนขยายตัวถึงร้อยละ 13.8 ถือเป็นการขยายตัวน่าพอใจ แม้เงินบาทแข็งค่า แต่เป็นการแข็งค่าสอดคล้องกับเศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่อง และแข็งค่าตามดุลบัญชีเดินสะพัด ขณะที่ผู้ประกอบการไทยยังสามารถแข่งขันได้ คาดว่าจากการขยายตัวในช่วง 5 เดือนแรกของปีขยายตัวได้เฉลี่ยร้อยละ 12-13 ในระดับใกล้เคียงตลอดทั้งปีจนถึงเดือนธันวาคม จึงไม่อยากให้ภาคเอกชนกังวลเรื่องเงินบาทแข็งค่า เนื่องจากการแข็งค่านั้นมาจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและเติบโต ทำให้ต่างชาติมีความมั่นใจ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ เมื่อหลายปัจจัยทางเศรษฐกิจดีต่อเนื่องจะทำให้นักลงทุนมั่นใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น หลังจากพูดคุยกับนักลงทุนโดยเฉพาะต่างชาติในงาน Taking off News Heights ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อให้รับรู้ว่าแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทุกด้านใน 2 ปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นผลชัดเจนแล้ว และจากนี้ไปอีก 2-3 ปี จะมีแต่ปัจจัยบวกหลายด้านดีขึ้นแบบพลิกโฉมประเทศไทยในการปฏิรูปเศรษฐกิจดิจิทัล เพราะไทยพ้นจุดต่ำสุดมานานแล้ว เมื่อตัวเลขการส่งออกขยายตัว การลงทุนภาครัฐ เริ่มจะออกสู่ระบบจะทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ขยายตัวสูงขึ้นตามมา
ขณะที่ยอดหนี้สาธารณะของประเทศ ที่ระบุว่ามีสัดส่วนสูงขึ้นเป็นร้อยละ 42.8 นั้น ยอมรับว่ายังไม่เกินกรอบความยั่งยืนทางการคลัง และต้องมองว่าการกู้เงินของรัฐบาลนำไปลงทุนด้านอะไร เพราะเมื่อลงทุนในเรื่องเทคโนโลยี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จะให้ผลออกมาในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ มากกว่าการกู้มาใช้จ่ายในด้านอื่น จึงถือว่าหนี้สาธารณะของประเทศไม่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม เมื่อปัจจัยหลายด้านดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ศูนย์วิจัยด้านเศรษฐกิจคาดการณ์เศรษฐกิจขยายตัวทางบวก โดยเฉพาะกสิกรไทยมองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจพุ่งถึง 1,900 จุดในปีนี้ จากนั้นไทยต้องเริ่มกระโดดเข้าร่วมเวทีเสรีค้าการค้าโลกหลายเวที ทั้ง TPP และ RCEP เพราะออสเตรเลียชวนไทยเข้าร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีเดินทางไปประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์จึงต้องศึกษาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ ทั้งข้อดีและข้อเสีย หากเข้าร่วมแล้วต้องชัดเจนว่าประเทศได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นเวียดนามจะแซงหน้าได้ ขณะนี้การแข่งขันในระดับเวทีโลกเริ่มรุนแรงมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย