กทม.20 มี.ค.–บอร์ด ป.ป.ท.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้าราชการซี 8 ศธ.โกงเงินกองทุนเสมาฯ ไม่เชื่อทำคนเดียว ลักษณะโอนเข้าบัญชีญาติ อ้างเป็นเงินขายตรง ก่อนโอนเข้าบัญชีตัวเองรวมกว่า 88 ล้านบาทจากงบทั้งหมด176 ล้านบาท
พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) หรือบอร์ด ป.ป.ท. ว่า ที่ประชุมมีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนางรจนา สินที นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ระดับ 8 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยตั้งข้อกล่าวหากระทำความผิดเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รักษาทรัพย์ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานปลอมเอกสาร, เป็นเจ้าพนักงานรับรองเอกสารเพื่อพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ตามมาตรา 147 ,151, 161,162 และ 157 จากกรณีที่ สน.ดุสิต รับแจ้งความจากกระทรวงศึกษาฯ ว่าถูกเจ้าหน้าที่เบียดบังงบประมาณ ปี 2560 นำเงินไปเข้าบัญชีบุคคลอื่นเป็นเงิน 18.8 ล้านบาท
พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวต่อไปว่า หลังรับแจ้งความตำรวจส่งสำนวนมาให้ ป.ป.ท.สอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมกระทำความผิด พร้อมติดตามทรัพย์ โดยก่อนหน้านี้กระทรวงศึกษาฯ ได้ตรวจสอบภายในก่อนแล้ว จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงสั่งการให้ตรวจสอบย้อนหลังไปจนถึงปี 2551 โดยในแต่ละปีกองทุนเสมาฯ จะได้รับอนุมัติงบประมาณ ปีละ 10-30 ล้านบาท โดยนางรจนาโอนเงินไปพักไว้ในบัญชีแม่ น้องชาย น้องสาว น้องสะใภ้ และลูกศิษย์ของนางรจนา รวมถึงบัญชีของบุคคลอื่นๆ รวม 22 บัญชี จากนั้นจึงโอนกลับเข้าบัญชีของตนเอง
ส่วนสาเหตุใดที่นางรจนาสามารถทำได้ถึงขนาดนี้พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า เป็นเพราะนางรจนาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขาจดบันทึกรายงานการประชุม หลังจากปลัดกระทรวงฯ พิจารณาอนุมัติกองทุนให้กับนักเรียนที่มีสิทธิตามที่โรงเรียนต่างๆ ในกลุ่มโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์, โรงเรียนสมเด็จพระปิยมหาราช, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีและราชประชาสงเคราะห์ได้ส่งรายชื่อมา หลังการประชุมนางรจนาจะทำเอกสารต่างๆ แทนที่จะนำเงินเข้าบัญชีของนักเรียนแต่กลับทำเอกสารระบุรายชื่อบัญชีของเครือญาติมาสอดแทรกเข้าไปเพื่อรับเงินแทนก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาอนุมัติเงิน โดยผู้ขอรับทุนบางส่วนได้รับเงินจริง บางส่วนก็เข้าไปในบัญชีเครือญาติ
“ในชั้นสอบสวนนางรจนารับสารภาพว่าดำเนินการเพียงคนเดียว โดยอ้างกับญาติว่าเป็นเงินที่ได้จากการทำธุรกิจขายตรงนำไปฝากไว้ ประเด็นนี้ ป.ป.ท.ไม่เชื่อว่าการกระทำการทุจริตในวงเงินมหาศาลขนาดนี้ โดยตรวจสอบย้อนหลังตั้งแต่ปี 2551-2561 งบประมาณกองทุนเสมาฯรวม 176,034,510 บาท และนางรจนา นำเข้าบัญชีญาติ และตัวเองไปถึง 87,993,372 บาท จะทำเพียงแค่คนเดียว’ พล.ต.อ.จรัมพร กล่าว
หลังจากนี้จะต้องไปตรวจสอบย้อนหลังรายชื่อที่มีเงินเข้าบัญชีว่าเป็นบัญชีของบุคคลนั้นจริงหรือไม่และเงินถูกโอนไปอยู่ที่ใครบ้าง โดยจะเริ่มสอบสวนในปีงบประมาณ 2560 ก่อน ซึ่งมีบัญชีที่เปิดอยู่ 22 บัญชี และปิดไปแล้ว 22 บัญชี การตรวจสอบจะประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่ามีความเชื่อมโยงทางการเงินไปยังบุคคลที่สูงกว่าข้าราชการระดับ 8 หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าเงินที่ถูกนำไปพักในบัญชีญาติและบุคคลอื่นๆ ได้โอนกลับมาให้นางรจนาเต็มจำนวนหรือไม่ หรือไปอยู่ในบัญชีใครอีกบ้าง.- สำนักข่าวไทย