ทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต มูลค่าเสียหายรวม 77 ล้าน

กทม. 2 พ.ค. – หลังคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตของกระทรวงศึกษาธิการ ใช้เวลาสืบเกือบ 2 เดือน ล่าสุดได้ข้อสรุปความเสียหายทั้งหมด รวมถึงกลโกงหรือช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการทุจริต 


กองทุนเสมาพัฒนาชีวิตตั้งขึ้นปี 2542 เพื่อช่วยเหลือเด็กยากจน ด้อยโอกาส ให้มีทุนการศึกษา ป้องกันปัญหาตกเขียว 6 ปีให้หลังเกิดการทุจริตต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนานนับ 13 ปี มีการโกงเงินรวมทั้งหมด 77 ล้านบาท


ตั้งแต่ปี 2548-2561 มีการโอนเงินกองทุน 34 ครั้ง เป็นเงิน 240 ล้านบาท โอนเงินถูกต้อง 134 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 56 ส่วนที่เหลือคือโอนไม่ถูกต้อง บางส่วนทุจริตแล้วหมุนเงินทดแทน และทุจริตยักยอกเงิน 77 ล้านบาท โดยรูปแบบใช้วิธีปลอมแปลงเอกสารเท่านั้น โดยใช้บัญชีบุคคลภายนอก ปลอมบัญชีสถานศึกษาเบิกซ้ำ และเบิกก่อนกำหนดโดยไม่มีเหตุผล 

สาเหตุที่ทำให้เกิดทุจริต คือ ผู้ที่เกี่ยวข้องละเลย อนุมัติโดยไม่ผ่านการกลั่นกรอง เชื่อบุคคลมากกว่าข้อมูล มีการลงนามโอนเงินไว้ล่วงหน้า ลงนามหนังสือฉบับดียวให้เจ้าหน้าที่ตัดต่อและงานสารบรรณไม่เข้มแข็ง นอกจากนางรจนา สินที มีผู้ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในกระทรวงศึกษาธิการนับสิบราย เป็นทั้งระดับปฏิบัติการและระดับสูง เตรียมเสนอรัฐมนตรีศึกษาเอาผิดทางวินัยและทางละเมิด 7 พ.ค.นี้


ส่วนการเยียวยา สถานศึกษาที่ได้รับเงินกองทุน มี 3 กลุ่ม ได้แก่ วิทยาลัยพยาบาล 26 แห่ง มีนักศึกษาได้รับผลกระทบ 198 คน ยอดเงินค้างจ่าย 12 ล้านบาท โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 41 แห่ง มีครูอัตราจ้างได้เงินไม่ครบ 53 คน ยอดเงินค้างจ่าย 7.9 ล้านบาท และ กศน. จังหวัด 3 แห่งได้เงินครบ สรุปยอดเงินที่ต้องเยียวยา 19 ล้านบาท ขณะที่ตัวเลขดอกเบี้ยในบัญชีมีกว่า 49 ล้านบาท คาดทยอยจ่ายคืนให้เด็กและครูได้เร็วๆนี้ ซึ่งถือว่าการสืบข้อเท็จจริงคืบหน้ากว่าร้อยละ 99 แล้ว

กรณีพบ 4 โรงเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายได้รับเงิน สรุปเป็นโรงเรียนที่มีสิทธิรับเงินจากโครงการเสมาพัฒนาชีวิต ไม่ใช่จากกองทุนเสมา ตรวจสอบพบเป็นกลุ่มของนางรจนา ดำเนินการนำเงินจากกองทุนไปจ่ายทั้งที่มีเงินงบประมาณแผ่นดินให้กว่า 135 ล้านบาท จึงต้องสืบต่อว่างบนี้ไปใช้ในส่วนใด กรณีที่พบบัญชีวัดน้อยนพคุณได้รับเงิน เป็นโรงเรียนใช้ชื่อวัดรับเงินแทน

กระทรวงศึกษาธิการหารือธนาคารกรุงไทย สืบเจ้าของบัญชีที่ยังไม่ทราบตัวตนกว่า 68 บัญชี จาก 1000 บัญชี พร้อมส่งให้ ป.ป.ท.ขยายผลต่อ ขณะที่กรุงไทยเร่งรัดสืบข้อมูลภายใน หลังพบว่าปี 60 มีการโอนเงินทั้งที่เป็นบัญชีปลอม. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่