บอร์ด กอปศ.เห็นชอบห้ามสอบคัดเลือกเด็ก ป.1

ถนนสุโขทัย 20 มี.ค.-บอร์ด กอปศ.ยึดหลักการร่าง พ.ร.บ.ปฐมวัย พ.ศ….ห้ามสอบคัดเลือกเด็กป.1 หลังเกิดปัญหาติวเตอร์เเห่เปิดสอนคอร์สเข้าป.1 โรงเรียนดัง  ย้ำเด็กต้องได้รับการดูเเลเเละพัฒนาตามวัยเเละตามความต้องการ


น.ส.ดารณี อุทัยรัตนกิจ รองประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาครั้งที่ 12/2561 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติการปฐมวัยแห่งชาติ พ.ศ….ซึ่งร่างพระราชบัญญัติครั้งนี้มีสาระสำคัญต่างจากเดิมในหลายประเด็น อาทิ ช่วงอายุของเด็กปฐมวัยที่กำหนดให้ดูเเลตั้งเเต่ปฏิสนธิจนถึง 8 ปี ,การกำหนดคำนิยามใหม่ทั้งการดูเเล การพัฒนาเเละการจัดการเรียนรู้ ,การเชื่อมโยงการเรียนของเด็กชั้นอนุบาล1-3 เเละชั้นประถมศึกษาปีที่1-2, การบูรณาการการทำงานของ 4 กระทรวงหลักที่ร่วมกับขับเคลื่อนการทำงาน ได้เเก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมนุษย์เเละกระทรวงมหาดไทย 


ซึ่งที่ประชุมได้นำมาปรับเเก้  หลังลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศ โดยทุกภาคส่วนเห็นตรงกันว่า การลงทุนการศึกษาในช่วงปฐมวัย เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเเละจำเป็น ให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีตามวัยเ เละตามความต้องการ ได้ซึมซับสุนทรียภาพเเละมีจิตสำนึกการเป็นพลเมืองที่ดี รัฐจึงต้องสนับสนุนส่งเสริม ซึ่งนอกจาก 4 กระทรวงเเล้ว องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น  รวมถึงภาคเอกชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดูเเลเเละพัฒนาเด็ก


น.ส.ดารณี กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสังคมมีการพูดถึงเเละกังวลที่มีการติวเตอร์เข้าศึกษาต่อชั้น ป.1 จึงมีมาตรา 31 ในร่างพระราชบัญญัติการปฐมวัย พ.ศ….กำหนดไว้ว่าเพื่อเป็นการปกป้องพัฒนาการของเด็กปฐมวัยห้ามมิให้สถานศึกษา ตามกฏหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและโรงเรียนตามกฏหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนรับเด็กประถมวัยเข้าศึกษา  โดยใช้วิธีการสอบคัดเลือกหรือทดสอบสมรรถนะคุณลักษณะ ความรู้หรือความสามารถอื่นใดของเด็กปฐมวัย  รวมถึงการฝากเด็กปฐมวัยเข้าเรียนในสถานศึกษาด้วย 

เเต่อย่างไรก็ตามมีข้อเสนอว่าห้ามสอบ เว้นเเต่การสอบเป็นไปตามหลักเกณฑ์เเละเงื่อนไขที่สำนักนโยบายกำหนด เพราะตระหนักดีว่าการสอบเข้าป.1 เป็นช่วงรอยต่อระหว่างชั้นอนุบาลเเละชั้นประถม ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กมีพัฒนาการยืดหยุ่นมาก เด็กต่างกัน หากมีการสอบคัดเด็กมีผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนในชั้นอนุบาลเเทนที่เด็กจะได้มีเวลาเรียนรู้อย่างอื่น จึงควรจะปกป้องคุ้มครองเด็กในช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่น  รวมถึงต้องปรับทัศนคติของพ่อเเม่เเละคนในสังคม ที่ประชุมจึงยึดในหลักการว่าไม่มีการสอบคัดเลือก 

ส่วนจะเป็นการสอบสมรรถนะหรือด้านอื่นขึ้นอยู่กับเกณฑ์ตามที่สำนักนโยบายกำหนด ซึ่งยังต้องมีการปรับเเก้ในประเด็นดังกล่าวอยู่ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน โดยมีการเสนอให้นำคณะกรรมการนโยบายเด็กรวมกับคณะกรรมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เเห่งชาติ เพื่อง่ายต่อการยกร่างพระราชบัญญัติหรือพิจารณากฎหมาย เเละการทำงานจะได้ไม่ทับซ้อนกัน 

ซึ่งข้อเสนอเเนะเเละประเด็นต่างๆคณะกรรมการต้องนำมาปรับเเก้ เเละจะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชนเเละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอีกครั้งก่อนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้สรุปประเด็นรับฟังความคิดเห็นการประชุมเพื่อยกร่างพระราชบัญญัติการศึกษาเเห่งชาติฉบับใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาใน 5 ประเด็นได้เเก่ 

แนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาทักษะการดำรงชีวิต,

แนวทางการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย อาศัยกลไกทุกภาคส่วน,

แนวทางการจัดการศึกษาทางเลือก,

แนวทางการวัดและประเมินผลการจัดการศึกษา

และแนวทางการสร้างความเข้มแข็งให้สถานศึกษา 

ซึ่งทุกภาคส่วนในด้านการศึกษาเพื่อการดำรงชีวิต การศึกษาตามอัธยาศัยเเละการศึกษาทางเลือก ต้องกำหนดคำนิยามหรือความต้องการ  รวมถึงหน่วยงานที่ดูเเลอย่างชัดเจน เพราะเดิมทีทำงานซ้ำซ้อน ซึ่งเมื่อมองเป้าหมายในการปฏิรูปการศึกษาครั้งนี้ การศึกษาเพื่อการดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขเเละตามความถนัดของผู้เรียน ไม่มุ่งใบปริญญาเเต่มุ่งสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต เเละต้องเปลี่ยนบทบาทของหน่วยงานกำกับดูเเลที่ไม่ใช่เป็นการควบคุม เเต่ต้องสร้างศรัทธาให้กับผู้เรียนเเละผู้สอนว่าสามารถเรียนได้ด้วยตนเองเเละสอนตามความต้องการของเด็ก ,ต้องมีกลไกในการเทียบโอนความรู้ วุฒิเเละประสบการณ์เเละการปฏิรูปต้องสร้างความเข้มเเข็งให้สถานศึกษา รัฐเเค่สนับสนุนเเต่ต้องปล่อยให้โรงเรียนคิดว่าจะทำอย่างไร ให้ครูได้สอนเต็มที่ ลดงานธุรการออกไป 

ส่วนการประเมินผลเน้นระดับห้องเรียนเเละสภาพการเรียนที่เเท้จริง การสอบNT หรือ O-NET อาจเป็นตัวประกอบไม่ใช่ตัวหลัก รวมถึงการศึกษาทางเลือกต้องมีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร วิธีการเรียนการสอนเเละการประเมินด้วย ซึ่งความคิดเห็นทั้งหมดคณะอนุกรรมการจะนำไปประกอบร่างพระราชบัญญัติการศึกษาเเห่งชาติ ซึ่งคาดว่าร่างพ.ร.บ.จะเเล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้  ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชาวแม่อายกังวลพบสารหนูในร่างกาย สธ.ยันไม่เกินมาตรฐาน

เชียงใหม่ 8 ก.ค. – หลังชาวบ้านริมลำน้ำกก บริเวณชายแดนด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เครียดและกังวลกับปัญหาสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกก ส่งผลต่อวิถีชีวิตและการใช้น้ำมานานกว่า 3 เดือน ตอนนี้ชาวบ้านยิ่งตื่นกลัวมากขึ้น หลังมีกระแสข่าวการสุ่มตรวจปัสสาวะเด็กในชุมชนอย่างน้อย 2 คน พบสารหนูในร่างกาย ขณะที่สาธารณสุขเชียงใหม่ ยอมรับการสุ่มตรวจกลุ่มเสี่ยง 10 ราย พบสารหนู 9 ราย แต่ไม่เกินมาตรฐาน.-สำนักข่าวไทย

ค้นรัง “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “ฮุนเซน”

8 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” ค้น 19 จุด 3 จังหวัด เครือข่าย “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “สมเด็จฮุน เซน” ตามหมายจับสมคบกันก่ออาชญากรรมข้ามชาติ พัวพันในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต กัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

ทบ.พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม ปัดโต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน

สุรินทร์ 8 ก.ค.- ทบ. พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม หวังเรียกนักท่องเที่ยวดูโบราณสถาน มองเป็นเรื่องดี หลังประชาชนทะลักเข้าชมปราสาท เผยไม่โต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน มุ่งยึดการสื่อสาร ไทย-กัมพูชา ไม่พัฒนาไปสู่ความตึงเครียด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อยากให้พาสื่อมวลชนส่วนกลางมาลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี โดยอยากให้สื่อสัมผัสกับพื้นที่จริง 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 คือทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนที่ 2 เรื่องของพื้นที่ส่วนหลังในเรื่องความพร้อมต่าง ๆ ที่ทางทหารและฝ่ายปกครองได้เตรียมความพร้อมกันไว้ ซึ่งปราสาทตาเมือนธมเป็นจุดแรกที่เป็นจุดที่มาลงพื้นที่หลังฟังคำบรรยายของกองกำลังสุรนารี โดยส่วนหนึ่งที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อเยี่ยมชมโบราณสถาณที่สำคัญ ตามจริงเราขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมถึงได้มีการมอบสิ่งของบำรุงขวัญและให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ผ่านมามีปากเสียงกันในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการรับรายงานเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ได้รับรายงาน ส่วนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับข้อมูล ถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่น่ากังวล ผู้ปฏิบัติงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 8 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ SPLASH – Soft Power Forum 2025 ชี้วัฒนธรรมไทยมีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก ตั้งเป้าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH – Soft Power Forum 2025) ณ เวทีกลาง Exhibition Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนเข้าร่วม โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีโอกาสได้มางานนี้อีกครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเป็นปีที่แรก และปีนี้งานยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจและอีกหลายปัจจัยทั่วโลก ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราต้องมีการปรับตัวที่เพิ่มมากขึ้น ตนเชื่อว่าการเข้าสู่บริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น การเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก […]