บอร์ด กอปศ.เห็นชอบห้ามสอบคัดเลือกเด็ก ป.1

ถนนสุโขทัย 20 มี.ค.-บอร์ด กอปศ.ยึดหลักการร่าง พ.ร.บ.ปฐมวัย พ.ศ….ห้ามสอบคัดเลือกเด็กป.1 หลังเกิดปัญหาติวเตอร์เเห่เปิดสอนคอร์สเข้าป.1 โรงเรียนดัง  ย้ำเด็กต้องได้รับการดูเเลเเละพัฒนาตามวัยเเละตามความต้องการ


น.ส.ดารณี อุทัยรัตนกิจ รองประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาครั้งที่ 12/2561 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติการปฐมวัยแห่งชาติ พ.ศ….ซึ่งร่างพระราชบัญญัติครั้งนี้มีสาระสำคัญต่างจากเดิมในหลายประเด็น อาทิ ช่วงอายุของเด็กปฐมวัยที่กำหนดให้ดูเเลตั้งเเต่ปฏิสนธิจนถึง 8 ปี ,การกำหนดคำนิยามใหม่ทั้งการดูเเล การพัฒนาเเละการจัดการเรียนรู้ ,การเชื่อมโยงการเรียนของเด็กชั้นอนุบาล1-3 เเละชั้นประถมศึกษาปีที่1-2, การบูรณาการการทำงานของ 4 กระทรวงหลักที่ร่วมกับขับเคลื่อนการทำงาน ได้เเก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมนุษย์เเละกระทรวงมหาดไทย 


ซึ่งที่ประชุมได้นำมาปรับเเก้  หลังลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศ โดยทุกภาคส่วนเห็นตรงกันว่า การลงทุนการศึกษาในช่วงปฐมวัย เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเเละจำเป็น ให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีตามวัยเ เละตามความต้องการ ได้ซึมซับสุนทรียภาพเเละมีจิตสำนึกการเป็นพลเมืองที่ดี รัฐจึงต้องสนับสนุนส่งเสริม ซึ่งนอกจาก 4 กระทรวงเเล้ว องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น  รวมถึงภาคเอกชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดูเเลเเละพัฒนาเด็ก


น.ส.ดารณี กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสังคมมีการพูดถึงเเละกังวลที่มีการติวเตอร์เข้าศึกษาต่อชั้น ป.1 จึงมีมาตรา 31 ในร่างพระราชบัญญัติการปฐมวัย พ.ศ….กำหนดไว้ว่าเพื่อเป็นการปกป้องพัฒนาการของเด็กปฐมวัยห้ามมิให้สถานศึกษา ตามกฏหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและโรงเรียนตามกฏหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนรับเด็กประถมวัยเข้าศึกษา  โดยใช้วิธีการสอบคัดเลือกหรือทดสอบสมรรถนะคุณลักษณะ ความรู้หรือความสามารถอื่นใดของเด็กปฐมวัย  รวมถึงการฝากเด็กปฐมวัยเข้าเรียนในสถานศึกษาด้วย 

เเต่อย่างไรก็ตามมีข้อเสนอว่าห้ามสอบ เว้นเเต่การสอบเป็นไปตามหลักเกณฑ์เเละเงื่อนไขที่สำนักนโยบายกำหนด เพราะตระหนักดีว่าการสอบเข้าป.1 เป็นช่วงรอยต่อระหว่างชั้นอนุบาลเเละชั้นประถม ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กมีพัฒนาการยืดหยุ่นมาก เด็กต่างกัน หากมีการสอบคัดเด็กมีผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนในชั้นอนุบาลเเทนที่เด็กจะได้มีเวลาเรียนรู้อย่างอื่น จึงควรจะปกป้องคุ้มครองเด็กในช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่น  รวมถึงต้องปรับทัศนคติของพ่อเเม่เเละคนในสังคม ที่ประชุมจึงยึดในหลักการว่าไม่มีการสอบคัดเลือก 

ส่วนจะเป็นการสอบสมรรถนะหรือด้านอื่นขึ้นอยู่กับเกณฑ์ตามที่สำนักนโยบายกำหนด ซึ่งยังต้องมีการปรับเเก้ในประเด็นดังกล่าวอยู่ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน โดยมีการเสนอให้นำคณะกรรมการนโยบายเด็กรวมกับคณะกรรมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เเห่งชาติ เพื่อง่ายต่อการยกร่างพระราชบัญญัติหรือพิจารณากฎหมาย เเละการทำงานจะได้ไม่ทับซ้อนกัน 

ซึ่งข้อเสนอเเนะเเละประเด็นต่างๆคณะกรรมการต้องนำมาปรับเเก้ เเละจะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชนเเละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอีกครั้งก่อนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้สรุปประเด็นรับฟังความคิดเห็นการประชุมเพื่อยกร่างพระราชบัญญัติการศึกษาเเห่งชาติฉบับใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาใน 5 ประเด็นได้เเก่ 

แนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาทักษะการดำรงชีวิต,

แนวทางการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย อาศัยกลไกทุกภาคส่วน,

แนวทางการจัดการศึกษาทางเลือก,

แนวทางการวัดและประเมินผลการจัดการศึกษา

และแนวทางการสร้างความเข้มแข็งให้สถานศึกษา 

ซึ่งทุกภาคส่วนในด้านการศึกษาเพื่อการดำรงชีวิต การศึกษาตามอัธยาศัยเเละการศึกษาทางเลือก ต้องกำหนดคำนิยามหรือความต้องการ  รวมถึงหน่วยงานที่ดูเเลอย่างชัดเจน เพราะเดิมทีทำงานซ้ำซ้อน ซึ่งเมื่อมองเป้าหมายในการปฏิรูปการศึกษาครั้งนี้ การศึกษาเพื่อการดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขเเละตามความถนัดของผู้เรียน ไม่มุ่งใบปริญญาเเต่มุ่งสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต เเละต้องเปลี่ยนบทบาทของหน่วยงานกำกับดูเเลที่ไม่ใช่เป็นการควบคุม เเต่ต้องสร้างศรัทธาให้กับผู้เรียนเเละผู้สอนว่าสามารถเรียนได้ด้วยตนเองเเละสอนตามความต้องการของเด็ก ,ต้องมีกลไกในการเทียบโอนความรู้ วุฒิเเละประสบการณ์เเละการปฏิรูปต้องสร้างความเข้มเเข็งให้สถานศึกษา รัฐเเค่สนับสนุนเเต่ต้องปล่อยให้โรงเรียนคิดว่าจะทำอย่างไร ให้ครูได้สอนเต็มที่ ลดงานธุรการออกไป 

ส่วนการประเมินผลเน้นระดับห้องเรียนเเละสภาพการเรียนที่เเท้จริง การสอบNT หรือ O-NET อาจเป็นตัวประกอบไม่ใช่ตัวหลัก รวมถึงการศึกษาทางเลือกต้องมีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร วิธีการเรียนการสอนเเละการประเมินด้วย ซึ่งความคิดเห็นทั้งหมดคณะอนุกรรมการจะนำไปประกอบร่างพระราชบัญญัติการศึกษาเเห่งชาติ ซึ่งคาดว่าร่างพ.ร.บ.จะเเล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้  ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดใจกับสื่อ ลูกชายยังอยู่ในอาการช็อก เชื่อเสียใจและอยากมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5