ประธานบอร์ด-ว่าที่ซีอีโอ ปตท.คนใหม่ประสานเสียงโปร่งใส -ไร้ขัดแย้ง

กรุงเทพฯ 16 มี.ค.- “ปิยสวัสดิ์ -ชาญศิลป์” ประสานเสียงการคัดเลือกซีอีโอ ปตท.คนใหม่โปร่งใส ไม่ได้ถูก ปตท.ฟ้องร้อง เรื่องปาล์มอินโดนีเซียแต่อย่างใด  ไร้ความขัดแย้งในองค์กร พร้อมเดินหน้าปรับองค์กรรับ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีใหม่หรือ  Disruptive Technology


นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ ปตท. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ปตท.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม ปตท.เป็นผู้ที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. คนที่ 9 แทนนายเทวินทร์  วงศ์วานิช ที่จะหมดวาระวันที่ 30 สิงหาคม 2561

นายชาญศิลป์ เป็นผู้มีประสบการณ์สูงในการทำงานใน ปตท. มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ตอบสนองแผนกลยุทธ์ของ ปตท. ในเรื่อง Disruptive Technology เพื่อแสวงหาธุรกิจใหม่ของ ปตท.และสามารถขับเคลื่อนธุรกิจของ ปตท.ต่อไป โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะนำนโยบาย CHANGE for Future of Thailand 4.0 เพื่อนำพาให้ ปตท. เป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจ เน้นความโปร่งใส สู่ความยั่งยืน มีความก้าวหน้าและรุ่งเรืองในอนาคต 


ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาได้พิจารณาคุณสมบัติของนายชาญศิลป์ ตามกฎหมายแล้ว และตามข้อมูลที่ ปตท.ได้รับทราบนั้น นายชาญศิลป์ ไม่ได้เป็นผู้ถูกกล่าวหาโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีการลงทุนในธุรกิจปาล์มตามที่มีข่าวแต่อย่างใด จึงเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีลักษณะต้องห้ามในการเป็นกรรมการผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจและบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการที่ตนได้รับการคัดเลือกครั้งนี้ไม่ได้มีเส้นสายแต่อย่างใด โดยแม้ว่าจะทำงานเพียง 1 ปี 8 เดือน แต่ด้วยความเป็นลูกหม้อมายาวนานถึง 35 ปี  ทำงานเป็นกรรมการบริษัทมาถึง 16 แห่ง และเป็นประธานบริษัท 5 แห่ง ประกอบกับ ปตท.มีการวางการทำงานที่ต่อเนื่อง เช่น โครงการ “PTT 3D” อย่างต่อเนื่อง  ดังนั้น จึงจะทำหน้าที่ประสานงานให้เดินหน้าเกิดประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งสังคม สิ่งแวดล้อม ชุมชน ผู้ถือหุ้นรวมทั้งต้องเตรียมคน ให้ทำงานต่อเนื่อง เพราะต้องยอมรับว่า ปตท.เป็นเช่นเดียวกับหลายองค์กรที่เมื่อผู้บริหารยุค BABY BOOM เกษียณแล้ว จะเกิดการขาดช่วง ก็ต้องการเตรียมคน ให้เกิดการทำงานต่อเนื่อง เพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 


“แผน PTT 3D ปัจจุบันจะต้องต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่มด้านฟอสซิลทั้งน้ำมัน ปิโตรเครมี ก๊าซธรรมชาติ  ขณะเดียวกันต้องดูเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้น ต้องเน้นเรื่องพลังานทดแทน ซึ่งส่วนเหล่านี้ ปตท.ร่วมกันดูทั้งองค์กรอยู่แล้ว ผมก็มาประสานต่อ และเดินหน้าให้ ปตท.เป็นองค์กรที่สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง” นายชาญศิลป์ กล่าว

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ถูก ปตท.ฟ้องร้องแต่อย่างใด เพราะหากถูกฟ้องร้องก็คงไม่ผ่านคุณสมบัติจากการคัดเลือกเข้ามาดำรงตำแหน่ง โดยข้อเท็จจริงที่ตนเกี่ยวข้องกับบริษัท ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งลงทุนปาล์มในอินโดนีเซียนั้นตนเข้าไปเป็นกรรมการผู้จัดการในช่วงเดือนสิงหาคม 2551-พฤษภาคม 2552 หลังจากเกิดปัญหาและเมื่อ ปตท.ตรวจพบหลักฐานความผิดปกติในการลงทุนธุรกิจปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซียของพีทีทีจีอี ต่อมาจึงได้มีการสอบสวนลงโทษทางวินัยผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง  พร้อมส่งเรื่องให้คณะกรรมการ  ป.ป.ช.พิจารณาสอบสวน และยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง ซึ่งไม่ได้ฟ้องตน เป็นการฟ้องบุคคลอื่น  โดยที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้เชิญตนเองไปให้ข้อมูลในฐานะที่เคยบริหารงานเท่านั้น 

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ภายในองค์กรไม่มีการขัดแย้ง แม้ตนได้รับการคัดเลือกให้เป็นซีอีโอคนใหม่ แต่ไม่ได้คิดจะไปล้างบางใครทั้งสิ้น ผู้สมัครดำรงตำแหน่งทุกคนก็ล้วนเป็นพี่เป็นน้องกัน เรียนในชั้นเรียนผู้บริหารร่วมกัน เช่น นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ ก็ได้มายินดีเมื่อคณะกรรมการเห็นชอบการแต่งตั้ง ขณะที่ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ก็ได้ประสานการทำงานมาโดยตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปี 2560 ปตท.ชี้แจงว่าคดีปาล์มอินโดนีเซียนั้น  ปตท.มีคดีที่เป็นโจทก์ร่วมกับพีทีทีจีอี ยื่นฟ้องผู้เกี่ยวข้อง 2 คดี ได้แก่ 1.คดีที่ยื่นศาลแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลงทุนของพีทีทีจีอี  2.สืบเนื่องจากหน่วยงานตรวจสอบภายใน ปตท.ตรวจพบความผิดปกติจากความเสียหายจากการลงทุน ซึ่งพบว่าเกี่ยวพันกับบุคคลภายนอก คณะกรรมการ ปตท.จึงมีมติให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาตามกฎหมาย โดยปัจจุบันเรื่องยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. 

ทั้งนี้ นายชาญศิลป์ นอกจากจะเป็นผู้บริหาร ปตท.แล้ว ยังดำรงตำแหน่งประธานชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพ ปตท. และประธานชมรมจักรยาน โดยที่ผ่านมาในช่วงการเข้าทำงานใน บมจ.ไออาร์พีซี ได้ร่วมแก้ไขปัญหาด้านข้อขัดแย้งด้านแรงงาน และเมื่อกลับมาเป็นผู้บริหารใน ปตท.ได้เป็นหนึ่งในผู้ผลักดันให้ 6 บริษัทด้านปิโตรเคมีของ ปตท.ที่มีต่างชาติร่วมถือหุ้นโอนถ่ายไปเป็นบริษัทในเครือ ของ บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล (พีทีทีจีซี) ภายในระยะเวลา 12 เดือน และเมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี และวิศวกรรม บมจ.ปตท. ได้วางแผนรองรับเทคโนโลยีใหม่เติบโตด้วยระบบพลังงานแบบ S CURVE  โดยด้านธุรกิจขั้นต้น เดินหน้าแผน ASEAN GAS and Power  ,การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานแสงอาทิตย์, เอ็นเนอร์ยี่สตอเรจ, สมาร์ทกริด และยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี ) พร้อมต่อยอดเป็น Smart S-curve ประกอบด้วย RAPID Prototype , Digital Platfrom , เทคโนโลยีหุ่นยนต์ รวมถึงการเดินหน้าโครงการ Bio S-curve  ที่จะต่อยอดด้านเศรษฐกิจชีวภาพสร้างมูลค่าเพิ่ม นับเป็นการทำงานที่รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเช่นเดียวกับบริษัทพลังงานทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

ถึงไทยแล้ว “วิว กุลวุฒิ” เผยพยายามรักษาแชมป์ให้นานที่สุด

สนามบินดอนเมือง 8 มิ.ย.- “วิว กุลวุฒิ” นักแบดมินตันชายเดี่ยว มือ 1 ของโลก ถึงไทยแล้ว เผยพยายามรักษาแชมป์ให้นานที่สุด เตรียมลุยเป้าหมาย “ออล อิงแลนด์” “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตันประเภทชายเดี่ยวของไทย พร้อม “โค้ชเป้” ภัททพล เงินศรีสุข เดินทางกลับถึงประเทศไทย หลังเข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ อินโดนีเซีย โอเพ่น 2025 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,450,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 3-8 มิถุนายน 2568 โดยรอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 1 ของโลกและมือ 2 ของรายการ พบกับ โจว เทียนเฉิน มือ 7 ของโลกจากไต้หวัน […]