บสย.คาดค้ำประกันสินเชื่อ PGS 6 หมดวงเงิน มิ.ย.นี้

นครราชสีมา 16 มี.ค.- บสย.ชวนผู้ประกอบการและเอสเอ็มอี ใช้บริการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน PGS 6 ปรับปรุงใหม่ ฟรีค่าธรรมเนียม 4 ปีแรก ก่อนวงเงินหมดและปิดโครงการ 30 มิ.ย.นี้ 


นายวิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) กล่าวว่า บสย.ขอเชิญชวนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ใช้บริการค้ำประกันสินเชื่อ  โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS6) ปรับปรุงใหม่  ซึ่งล่าสุด ยังคงมีวงเงินค้ำประกันสินเชื่อได้อีก 30,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า วงเงินจะหมดลงและปิดโครงการในวันที่ 30 มิ.ย.นี้  โดยช่วงนี้ เป็นช่วงนาทีทอง เพราะ บสย. ฟรี ค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ นานถึง 4 ปีแรก โดยรัฐบาลและธนาคารเป็นผู้ชำระแทน จากนั้นตั้งแต่ปี 5 ผู้กู้ชำระค่าธรรมเนียม เพียงร้อยละ 1.75 ต่อปี ซึ่งเท่ากับว่า จะได้สินเชื่อที่มีต้นทุนต่ำกว่าในช่วงปกติ

สำหรับโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน PGS 6 ปรับปรุงใหม่ ให้วงเงินค้ำประกันสินเชื่อไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อรายรวมทุกสถาบันการเงินมีระยะเวลาค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 10 ปี โครงการจะสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายนปีนี้หรือวงเงินค้ำประกันครบ 81,000 ล้านบาท แล้วแต่เงื่อนไขใดจะถึงก่อน โดยในปีที่ผ่านมา  บสย. ประสบความสำเร็จเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ตัวเลขผู้ใช้บริการค้ำประกันสินเชื่อรวมมากกว่า  100,000 ราย มีวงเงินค้ำประกันสินเชื่อรวมกว่า 86,000 ล้านบาท


สำหรับการให้ความช่วยเหลือของบสย.แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงสินเชื่อในปี 2561 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างมกราคมถึง 14 มีนาคม บสย.มีการอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อแล้วจำนวน 1,200 ฉบับทำประกันสินเชื่อรวมกว่า 700 ล้านบาท 

นอกจากนี้จากการที่ บสย.ลงพื้นที่ร่วมกับทีมสำนักงานสาขา จังหวัดนครราชสีมา ยังพบว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นลูกค้า บสย. มีความต้องการเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจ ขยายกำลังการผลิตและเงินทุนหมุนเวียนซึ่ง บสย.เห็นว่าหากได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินแบบต่อเนื่องจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจในการพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าได้อย่างมั่นใจ


ในระหว่างปี 2560 บสย.ดำเนินการร่วมกับสมาคมธนาคารไทยในการติดตามยอดค้ำประกันโครงการ ทุกเดือน ในที่ประชุมชมรมเพื่อการพัฒนาธุรกิจ SMEs ภายใต้สมาคมธนาคารไทย และปัจจุบัน บสย.อยู่ระหว่างการประสานงานไปยังสมาคมธนาคารไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ ผ่านตู้กดเงินสดอัตโนมัติ (ATM) ของธนาคารสมาชิก  เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ซึ่งรูปแบบความร่วมมือครั้งนี้  บสย. จัดทำในรูปแบบของ  Info  Graphic เพื่อสร้างการรับรู้การเข้าถึงสินเชื่อต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อกับ บสย.  พร้อม Call Center 02-890-9999  คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเร็วๆ นี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถ ติดต่อได้ที่ ธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐทั้ง 18 แห่ง ส่วนในต่างจังหวัด สามารถไปปรึกษาเจ้าหน้าที่สาขาของ บสย. ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ 

นายวิเชษฐ ยังนำสื่อมวลชน เยี่ยมชมกิจการลูกค้าที่ใช้บริการค้ำประกินสินเชื่อจาก บสย.ด้วย   คือ บริษัท ภิญโญวานิช จำกัด ของนางสุมาลี ภิญโญ อายุ 57 ปี ซึ่งผลิตและจำหน่ายภาชนะจากกาบหมาก ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบรนด์ “วีรษา” โรงงานอยู่ที่ ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ที่กิจการเติบโตจากการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) และได้ใช้บริการการค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย. จนกิจการเติบโตและมีคำสั่งซื้อสูงกว่ากำลังการผลิต บริษัทจึงต้องการเงินทุนเพิ่มเพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิต และสำหรับคิดค้นเครื่องจักรในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ ต่อไป  ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาสินเชื่อที่บริษัทขอเพิ่มเติมจากสถาบันการเงิน 

สำหรับ บริษัท ภิญโญวานิช จำกัด ตั้งเมื่อปี 2558 มีนางสุมาลี ภิญโญ เจ้าของ เริ่มต้นธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2538 จากการเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดงานเลี้ยงอาหารแบบขันโตกในงานประเพณีชื่อดัง “กินเข่าค่ำ” ของอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา งานย้อนยุคในบรรยากาศสมัยโบราณ แต่ด้วยช่วงนั้น ภาชนะบรรจุอาหารส่วนใหญ่ยังเป็น “โฟม” ซึ่งสวนทางกับธีมงานที่เป็นแบบย้อนยุค จึงนำกาบหมากวัสดุธรรมชาติที่มีจุดเด่นย่อยสลายตามธรรมชาติเพียง 45 วัน มาผลิตภาชนะ โดยคิดค้นเครื่องจักรปั๊มขึ้นรูป  และถือเป็นผู้ผลิตรายแรกๆ ในประเทศไทย ซึ่งได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายจนถึงทุกวันนี้

สำหรับแบรนด์ ” วีรษา ” มีที่มาจากชื่อของคุณปู่ และคุณย่า มารวมกัน “วีระ+อุษา” ซึ่งมองว่าเป็นชื่อ ที่สามารถจดจำได้ง่าย โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ออกเสียงได้ไม่ยาก

ก่อนหน้านี้ บริษัท เคยขอสินเชื่อขยายธุรกิจ และบสย.ค้ำประกันสินเชื่อเต็มวงเงิน ในปี 2560 ซึ่งช่วงนั้น บริษัทตัดสินใจขอสินเชื่อจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  (ธ.ก.ส.) ผ่านโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร จำนวน 9 แสนบาท ซึ่งบสย.ค้ำประกันเต็มวงเงิน ระยะเวลา 7 ปี ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS6) ปรับปรุงใหม่ เพื่อลงทุนซื้อเครื่องจักร (เครื่องขึ้นรูปภาชนะกาบหมาก) และเครื่องมือในการผลิตภาชนะจากกาบหมากเพิ่มเติม เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร ซึ่งการซื้อเครื่องจักรดังกล่าว ทำให้บริษัทปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตจากแรงงานคนสู่เครื่องจักร เพิ่มศักยภาพการผลิต ทำให้มีสินค้าออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 800-1,000 ชิ้นต่อวัน ปัจจุบัน ภาชนะจากกาบหมาก แบรนด์ “วีรษา”  มีคำสั่งซื้อจากซัพพลายเออร์ โดยเฉพาะ ในธุรกิจค้าปลีกที่จริงจังกับแนวนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม การลดปริมาณขยะ โดยการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากโฟมเป็นกาบหมาก  

บริษัท ภิญโญวานิช จำกัด ยังจัดทำโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกหมาก เพื่อขายผลิตและป้อนกากหมากให้กับบริษัทอีกด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้อย่างยั่งยืนแก่ชุมชน  โดยส่งเสริม ทั้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และในจังหวัดข้างเคียง เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวของบริษัท   ซึ่งเห็นผลได้จริงภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีเศษ เพราะสามารถเก็บผลิตผลจากต้นหมากขายได้เงิน ตั้งแต่ดอกผลจนถึงกาบหมาก ลำต้น และราก โดยใช้พื้นที่ในการปลูกไม่มาก พื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกต้นหมากได้ถึง 1,000 ต้น

โครงการส่งเสริมการปลูกหมากในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เริ่มดำเนินการแล้วที่ ตำบลหนองสาหร่าย  อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ตามด้วยแนวคิดการส่งเสริมให้คนในชุมชนหันมาปลูกหมาก และพัฒนาถิ่นฐานใหม่ ยกระดับสู่การเป็นชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้อีกด้วย- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย