fbpx

ขรก.หญิงซี 8ศธ.โกงเงินกองทุนฯช่วยเด็กหญิงภาคเหนือ

ศธ.9 มี.ค.- ปลัดศธ.เผย พบข้าราชการหญิงซี8 โกงเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เพื่อช่วยเด็กหญิงภาคเหนือป้องกันถูกล่อลวง 10 ปี 88 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการสอบและเเจ้งความเเล้ว


นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งได้ตรวจพบหลังการตรวจสอบบัญชีงบประมาณประจำปี 2560 ของสำนักงานปลัด ศธ.เร็วนี้ว่า จากการตรวจสอบพบมีการทุจริตเงินจริง ลักษณะการโกงเงินคือมีการโอนเงินทุนการศึกษาของกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตเข้าบัญชีของบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ปี 2551-2561 ระยะเวลารวม 10 ปี เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 88 ล้านบาท ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาว่าโกงเงินนั้นเป็นข้าราชการหญิงระดับ 8 ตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการพิเศษ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในกองทุนดังกล่าว และได้ยอมรับว่าได้กระทำความผิดจริง โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีญาติพี่น้องและคนรู้จักถึง 19 บัญชี ตั้งแต่ปี 2551 – 2561 รวมกว่า 88 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงเวลาดังกล่าวมีการโอนเงินเข้าบัญชีหน่วยงานที่รับทุนรวมกว่า 77 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าเงินที่ยักยอกไป โดยยอดล่าสุดในปี 2561 มีการโอนเข้าบัญชีบุคคลอื่นกว่า 3 ล้านบาท แต่ไม่มีการโอนเข้าบัญชีหน่วยงานหรือผู้ที่ได้รับทุนดังกล่าวเลย

นายการุณ กล่าวต่อว่า ได้รายงานเรื่องนี้ให้นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับทราบแล้ว และได้มีการสั่งการให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่กระทำทุจริต รวมทั้งให้ตรวจสอบกองทุนอื่น ๆให้เข้มข้นด้วย ขณะเดียวกันมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานปลัด ศธ. ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต เพื่อดำเนินคดีอาญาและให้ส่งต่อสำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแล้ว พร้อมทั้งได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และได้ย้ายบุคคลที่ตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องพ้นหน้าที่ไปแล้ว เพื่อให้คณะกรรมการสืบสวนทำงานได้สะดวก 


สำหรับกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2542 สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย โดยเป็นกองทุนสำหรับสนับสนุนเด็ก โดยเฉพาะเด็กหญิงทางภาคเหนือที่อยู่ในสภาวะยากลำบากให้มีทุนการศึกษาต่อระดับวิชาชีพ เพื่อป้องกันการถูกล่อลวงไปในทางไม่เหมาะสม หรือที่เรียกว่าการ ตกเขียว  โดยใช้เงินจากการออกสลากกินแบ่งการกุศลงวดพิเศษ รวมทั้งเงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน เงินบริจาคและเงินดอกผลของกองทุน โดยการบริหารกองทุนจะมีคณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต  ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน

ล่าสุดวันนี้ นพ.ธีระเกียรติ รมว.ศธ.จะแถลงข่าวกรณีทุจริต “เงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต”ในเวลา 11.45 น..-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย