นครปฐม 8 มี.ค.- รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เร่งรัดสำนวนคดีนายเปรมชัยและพวกล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ่อแจ้งข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่เพิ่ม
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิตพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อเร่งรัดสำนวนคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้บริหารบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ร่วมกับพวกนำอาวุธปืนเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ที่ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตำรวจภูธรภาค 7 ได้ดำเนินการสอบสวนไปก่อนหน้านี้ เพื่อพิจารณาว่าจะสามารถแจ้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมได้หรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นร้องเรียนเรื่องการติดสินบนเจ้าหน้าที่ ตามที่มีคลิปเสียงออกมา
พร้อมเผยได้รับรายงานจาก เจ้าหน้าที่ ปปป. เรื่องผลการสอบสวน นายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเจ้าหน้าที่รวม 5 คน ประมาณเที่ยงคืน ผลการสอบสวนเป็นที่น่าพอใจ และให้เหตุผลว่ารับฟังได้ มั่นใจว่าจะสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ทัน 26 มีนาคมนี้ แม้ว่าจะมีความล่าช้าของกรมอุทยานในการส่งหลักฐานบางอย่างให้เพิ่มเติม เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ก็ไม่มีผลทำให้สำนวนคดีเปลี่ยน
ส่วนวิถีกระสุนยิงเสือดำ ที่สรุปว่าไม่มีจุดยึดโยง หรือหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าใครเป็นผู้ลงมือยิง นั้นรองผบ.ตร.บอกว่า ไม่ต้องไปหาว่าใครเป็นคนยิง เพราะในจุดเกิดเหตุไม่มีใครนอกจากนายเปรมชัยและพวก ซึ่งหลักฐานชัดเจน และยังพบ ดีเอ็นเอ นายเปรมชัยบนปืนด้วย ซึ่งก็เพียงพอที่จะเอาผิดได้ ไม่จำเป็นต้องหาคนยิง
และเมื่อสื่อมวลชนสอบถามถึงกระแสโจมตีในโซเชียลมีเดีย รองผบ.ตร.ยืนยันว่า กระแสโซเชียลไม่มีผลกับตน เพราะตนรับเงินเดือนจากภาษีประชาชน พร้อมยืนยันกฎหมายไม่มีคนรวยคนจน อยู่ที่ว่าทำผิดหรือไม่ ซึ่งก็ต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย