ลำปาง 5 มี.ค.-พระสงฆ์ขึ้นโรงพักแจ้งความหวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย อ้างถูกปลัดเทศบาลตำบลบ้านสา โทรมาข่มขู่ หลังพระสงฆ์ร้องสื่อให้ตรวจสอบเบี้ยผู้พิการยังไม่ได้รับถึง 10 เดือน
พระตรี ตรีมูรติการกุล พระลูกวัดบ้านแป้น นำเอกสารการลงบันทึกประจำวันของ สภ.แจ้ห่ม ลงวันที่ 3 มี.ค.2561 ต่อ พ.ต.ท.สายันห์ นึกเร็ว พนักงานสอบสวนให้กับผู้สื่อข่าวดู โดยข้อความ ระบุว่า ข้าพเจ้า พระตรี ตรีมูรติการกุล อายุ 35 ปี มาสถานีตำรวจ เพื่อแจ้งว่าเมื่อวันที่ 2 เวลาประมาณ 20.26 น. ได้รับโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเบอร์ของนายนภปนนท์ สุรินทร์โทร ปลัดเทศบาลตำบลบ้านสา โทรมาหาว่า เรื่องการให้ข่าวเรื่องเบี้ยคนพิการ ทำไมต้องให้ข่าวกับนักข่าวในทำนองว่า เทศบาลบ้านสา อมเงินของคนพิการ ทั้งๆ ที่ผู้แจ้งไม่ได้พูด และบอกว่ายุ่งกับเรื่องนี้ทำไม และบอกว่ามึงเป็นนายกฯ หรือมึงอยากดัง มึงอยากลองดีกับกูหรือ เดี๋ยวมึงเจอกับกูแน่ ทำให้ผู้แจ้งความมีความรู้สึกว่า ไม่มีความปลอดภัยในชีวิต และจากการข่มขู่ในครั้งนี้ จึงมาพบพนักงานสอบสวนฯ เพื่อลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะผู้แจ้งไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้ใดมาก่อน
พระตรี ตรีมูรติการกุล เปิดเผยว่า หลังจากได้ร้องสื่อฯ เกี่ยวกับเงินเบี้ยผู้พิการ ที่ยังไม่ได้รับตั้งแต่ปี 2558-2559 รวม 10 เดือน เป็นเงินคนละ 8,000 บาทไปนั้น หลังมีข่าวออกไปในวันดังกล่าว พอค่ำขณะที่กำลังสอนหนังสือให้กับเณร ปลัดเทศบาลฯ ก็ได้โทรศัพท์มาหาและต่อว่า ซึ่งหลังจากได้ฟังจึงได้บอกว่า หากพูดจาแบบนี้อาตมาก็ขอไม่พูดอะไรต่ออีก จึงได้วางสายไป และตอนเช้าก็ได้รีบไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย เพราะเขามีอำนาจ มีเงิน แต่อาตมาเป็นเพียงพระและพิการ ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตลอดจะเอาอะไรไปสู้เขาได้
พระตรี กล่าวต่อว่า วันที่อาตมาให้ข่าว อาตมาก็ไม่ได้ระบุว่าเทศบาลทุจริตใดๆ แต่ต้องการทราบว่า เงินเบี้ยผู้พิการยังไม่ได้รับ แทนที่ผู้ใหญ่ที่ทราบเรื่องแล้ว จะมาดูแลความเดือดร้อนของลูกบ้านและประชาชน แต่ทำไมถึงมาโกรธอาตมา และผู้สูงอายุพิการคนอื่นๆ ที่ออกมาบอกปัญหาที่เกิดขึ้น โดยบอกว่า ทำให้เทศบาล, หมู่บ้าน และจังหวัดฯ เสียชื่อเสียง หวงหน้าตาตัวเองมากกว่าความเดือดร้อนของประชาชน
ขณะที่โยมแม่ของพระตรี นางแจ่มจันทร์ หน้าใหญ่ อายุ 56 ปี กล่าวด้วยน้ำคลอว่า ขณะนี้ห่วงความปลอดภัยของพระตรี ขณะนี้แม้แต่ผู้ใหญ่บ้าน ก็กล่าวหาว่าพระตรีเป็นตัวการที่พาคนอื่นมาร้องนักข่าว โดยบอกว่าทำให้หมู่บ้าน เทศบาล และจังหวัดเสียชื่อเสียง และวันนี้ที่แม่ออกมาพูดนี้ก็กลัวนะ แต่ก็ห่วงความปลอดภัยพระมากกว่า เช่นเดียวกับคุณยายน้อง อายุ 84 ปี โยมยายของพระตรี ก็รู้สึกไม่สบายใจ บอกว่าหลังทราบข่าวว่าปลัดโทรมาข่มขู่ ก็นอนไม่หลับเลยเป็นห่วงมาก
ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พระสาธิต ธีรปญฺโญ ผอ.สถาบันธรรมาภิวัฒน์ บ้านสบเติ๋น หมู่ ๒ ตำบลสบป้าด อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ตัวแทนเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ พระตรี ตรีมูรติการกุล ถูกข่มขู่คุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐฯ โดยมองว่า อันที่จริงท่านได้มาเรียกร้องตามสิทธิ์ ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้ในสังคมว่าควรจะเข้ามาใส่ใจ ถ้าหากพูดในอีกมุมหนึ่ง จะเป็นเชิงบวกที่ว่า ทุกคนจะได้มองเห็นปัญหาและจะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐควรให้ความเคารพและฟังเสียงจากประชาชน พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐดูแลเรื่องความปลอดภัยของพระตรี ตรีมูรติการกุล และต้องดูเรื่องพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่ให้ความเคารพต่อพระสงฆ์ ซึ่งถือเป็นผู้นำแห่งจิตวิญญาณตรงนี้ด้วย
ด้านนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ ท้องถิ่นจังหวัดลำปาง ยืนยันว่าได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจากทางสื่อแล้ว และจะได้ให้ทางปลัดอำเภอผู้ที่ถูกพาดพิง เขียนรายงานชี้แจง ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนกรณีเบี้ยยังชีพผู้พิการนั้น เป็นเรื่องจริง เพราะเป็นเงินตกเบิกย้อนหลัง แต่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เคยมีหนังสือแจ้งไปให้ อปท.แต่ละแห่งสามารถยืมเงินสะสมทดรองจ่ายไปก่อนได้ เมื่อได้รับโอนเงินเข้ามาก็นำไปใช้แทน แต่ อปท.ไม่กล้าดำเนินการโดยอ้างว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทักท้วง และยังไม่มีเอกสารยืนยันจำนวนเงินที่ชัดเจน จึงไม่กล้าดำเนินการ จึงรอให้สำนักงบจัดสรรมาให้จะดีกว่า อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือมาว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ได้รับเบี้ยคนพิการ คนชรา ที่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ท้องถิ่นทำความตกลงกับจังหวัดฯ โดยระเบียบการยืมเงินสำรองจ่ายให้ก่อนได้ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างจะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบฯ และในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) จะลงพื้นที่พร้อมด้วยนายอำเภอและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบโดยพร้อมเพรียงกัน.-สำนักข่าวไทย
