กรมอุทยานฯ ขอให้ทุกคนตระหนักถึงการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า

โรงแรมดี วารี จอมเทียน บีช พัทยา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดงานโครงการวันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก (World Wildlife Day) ประจำปี พ.ศ. 2561 ที่โรงแรมดี วารี จอมเทียน บีช พัทยา จ.ชลบุรี ตามที่มีการลงนามรับรองอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora หรือ  CITES ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี พ.ศ. 2516 และที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่ให้การรับรองและประกาศให้วันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก เพื่อให้ความรู้และตระหนักถึงคุณประโยชน์ของการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่มีต่อมวลมนุษยชาติ

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวเปิดงาน ว่าปีนี้องค์การสหประชาชาติ ให้ความสำคัญกับสัตว์ป่ากลุ่มแมวใหญ่ (Big cats) ที่ถือเป็นสัตว์นักล่าที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของโลก แต่วันนี้ กำลังเผชิญกับภัยคุกคามมากมาย ทั้งจากกิจกรรมของมนุษย์ การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย ความขัดแย้งกับผู้รุกล้ำพื้นที่ และการค้าที่ผิดกฎหมาย  เช่น ประชากรเสือโคร่งที่ลดลงร้อยละ 95 ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา และประชากรสิงโตของแอฟริกาที่ลดลงร้อยละ 40 ในเวลาเพียง 20 ปี ซึ่งถือเป็นอัตราที่น่าเป็นห่วง

ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ ต้องการกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงการอยู่รอดของสัตว์ป่าผู้ล่ากลุ่มแมวใหญ่ ที่กำลังเผชิญกับภัยคุกคาม  โดยหวังว่าจะช่วยสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนถึงคุณประโยชน์ของการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า ไม่ให้มีการลักลอบค้าอย่างผิดกฎหมายต่อไป

“ปัญหาของเสือและสิงโตเป็นปัญหาที่ร้ายแรง เพราะมีจำนวนที่ลดลงแต่ทุกคนยังมีความหวัง เพราะเอ็นจีโอ ภาคีต่างๆ บอกว่าหากเราช่วยกันผลักดัน ยังมีทางออกช่วยสัตว์ป่าได้ เช่น ป่าทุ่งใหญ่ห้วยขาแข้ง มีจำนวนสัตว์ป่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเท่ากับว่าเราสามารถสร้างความยั่งยืนในตัวสัตว์ได้ โดยภายใต้ความหวังยังมีความท้าทายที่จะฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์ป่าให้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสายตรวจโซเชียลปกป้องสัตว์ป่าของประเทศไทยที่เป็นเครือข่ายช่วยสอดส่องด้วย อย่างไรก็ตาม ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ตั้งใจจะช่วยสัตว์ป่าและพืชป่าโลกให้อยู่ยั่งยืนต่อไป” นายปิ่นสักก์ กล่าว

นายสมเกียรติ สุนทรพิทักษ์กูล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาฯ กล่าวว่า ปีนี้ กรมอุทยานฯ กำหนดให้ “เสือโคร่ง” เป็นตัวแทนของสัตว์ป่าผู้ล่ากลุ่มแมวใหญ่ เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ป่ากลุ่มแมวใหญ่ และเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาคมโลก ได้ทราบถึงความก้าวหน้าของประเทศไทย ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งในธรรมชาติ และการจัดการเสือโคร่งในกรงเลี้ยง รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย