ศุลกากรเร่งเครื่องอำนวยความสะดวกธุรกิจหวังขยับอันดับดีขึ้น

กรมศุลกากร 2 มี.ค. – กรมศุลกากรพร้อมออกมาตรการเยียวยาเอกชน หลังกฎหมายฉบับใหม่กระทบผู้ส่งออก เตรียมผ่อนปรนขยายเวลา ยอมรับปรับปรุงอำนวยความสะดวกธุรกิจหลายด้านอันดับของไทยจะดีขึ้นเมื่อเวิลด์แบงก์เข้ามาเก็บข้อมูลเพิ่ม  


นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวภายหลังร่วมงานสัมมนา เพื่อประเมินผลกระทบจากพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2560 หลังจากได้บังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ยอมรับว่าผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากการทำพิธีทางศุลกากร และนำสินค้าผ่านแดนออกนอกราชอาณาจักรส่งไม่ทันตามกำหนดภายใน 30 วัน กรมศุลกากรจึงเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ สำหรับขั้นตอนการนำสินค้าเกิน 30 วัน เพื่อเก็บเข้าไปพักไว้ในเขตปลอดอากร และคลังสินค้าแทน จากเดิมต้องทำการยึดและขายทอดตลาดทันที โดยผู้ประกอบการต้องนำหลักฐานยืนยันสาเหตุที่ไม่สามารถนำสินค้าส่งออกได้ทันเพื่อมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ 

นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังได้แก้ปัญหาลดอุปสรรคหลายด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกกับภาคธุรกิจ (Doing Business) ทั้งมาตรการ Pre-Arrival Processing ด้วยการให้เอกชนส่งรายการสินค้านำเข้าระหว่างเดินทางทั้งเครื่องบิน ทางเรือ มาให้ศุลกากรทำการตรวจสอบ หากไม่อยู่ในบัญชีรายการสินค้ามีความเสี่ยง ต้องทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวด หากไม่ประวัติการสำแดงเท็จจะปล่อยสินค้าผ่านไปได้  หลังจากเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 เริ่มมีเอกชนใช้บริการผ่านธุรกรรมดังกล่าว  200,000 รายการ นับว่าสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า Greenline ซึ่งร่วมโครงการคุณธรรม รวมทั้งใช้ระบบติดตามสินค้า E-Tracking เพื่อติดตามดูว่าสินค้าอยู่ในขั้นตอนใดเหมือนกับไปรษณีย์ เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่


ตลอดจนการปรับปรุงรองรับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC ) การนำสินค้าเข้าเขตฟรีโซน จากเดิมต้องยื่นขอเอการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบ บางรายการต้องใช้เอกสารขออนุญาติถึง 17 ฉบับ จากนี้ไปหากสินค้าใดประกอบ และผลิต โดยนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เมื่อผลิตแล้วส่งออกไม่ต้องยื่นขอเอกสารดังกล่าว เพื่อความสะดวกกับผู้ส่งออกไปยังประเทศที่ 3 แต่หากนำเข้ามาผลิตแล้วจำหน่ายในประเทศยังต้องยื่นขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหมือนเดิม เพื่อดูแลผู้บริโภคในประเทศของไทย  หลังจากนี้กรมศุลกากรจะมีสถิติการให้บริการ ก่อนและหลังการปฏิรูปการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกกับเอกชนชัดเจนมากขึ้นว่าสามารถลดระยะเวลา ประหยัดต้นทุนได้เท่าได้ ยอมรับช่วงที่ผ่านมาเริ่มปรับปรุงจึงไม่มีข้อมูลชัดเจนในการประเมินอันดับอำนวยความสะดวกทางธุรกิจครั้งก่อน จึงหวังว่าการจัดอันดับอำนวยความสะดวกของประเทศจะดีขึ้นในรอบต่อไป 

สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ทางศุลกากรปีนี้มียอด  105,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 800-900 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 111,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 0 ตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-จีน ทำให้รายได้ลดลงปีละ 220 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

5ตัวประกันถึงไทย

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผกอดครอบครัว

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผเข้ากอดครอบครัวด้วยความดีใจ “ทูตอิสราเอล” ก็มาส่งด้วย น้ำตาคลอคุยครอบครัวตัวประกัน “มาริษ” สัญญาจะนำอีก 1 คน และ 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือกลับมาให้ได้ ด้าน 1 ในตัวประกัน พูดไม่ออก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ได้กลับแผ่นดินแม่

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่