บีซีพีจี หวั่นบาทผันผวนทำประกันลดความเสี่ยง

 



กรุงเทพฯ
28 ก.พ.-  บมจ.บีซีพีจี หวั่นบาทผันผวน
ทำประกับความเสี่ยงร้อยละ 30 ของเงินกู้ พร้อมเดินหน้าขยายการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนคาดปีนี้จะลงทุนอีก
1 หมื่นล้านบาท ขยายกำลังผลิต 200 เมกะวัตต์

        นายบัณฑิต สะเพียรชัย
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
​  ในปี 2561 บริษัทวางแผนทำประกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนร้อยละ
30 ของเงินกู้ โดยจะทำเมื่อใดดูถึงภาวะที่เหมาะสม และการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ
เพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงินที่ผันผวน แม้ว่า ปี2560นั้น บริษัทฯ จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ
ประมาณ 232 ล้านบาท
สาเหตุหลักมาจากการเข้าทำการป้องกันความเสี่ยงสำหรับการลงทุนในโครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพ
ประเทศอินโดนีเซีย

            ณ สิ้นปี 2560 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมประมาณ
32,099 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 26
จากโครงการลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย มีหนี้สินรวมประมาณ 17,730
ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณ 14,369 ล้านบาท
และปี 2560 บริษัทฯ
มีรายได้จากการขายไฟฟ้า 3,323 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละประมาณ 8
เมื่อเทียบกับปี 2559 และมีกำไรสุทธิ 2,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31


                ในปี 2561 บริษัทฯ
จะยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 
โดยมีโครงการที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์คือโครงการโซลาร์ฟาร์ม โกเทมบะ (
Gotemba)
ในประเทศญี่ปุ่น (กำลังการผลิต 4
เมกะวัตต์) ในไตรมาสที่ 1/2561 และ
โครงการโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตรกับองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์
(กำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์) ในไตรมาสที่ 2/2561

                ส่วนแผนการขยายธุรกิจ บริษัทฯ
ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง
และจะเริ่มให้ความสำคัญการทำการตลาดกับผู้บริโภครายย่อยมากขึ้น 
เน้นการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับผู้บริโภคโดยตรง
เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว  
ด้วยการนำ
Blockchain Technology มาบริหารจัดการการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนผ่านอินเทอร์เน็ตในรูปแบบ
Peer-to-Peer โดยมีบริษัทพาวเวอร์เล็ดเจอร์ ประเทศออสเตรเลีย
เป็นพันธมิตร ร่วมพัฒนาโครงการต่างๆ ได้แก่
Smart Green Community ร่วมกับ บมจ.แสนสิริ
ซึ่งคาดว่าโครงการแรกจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงกลางปี 2561
รวมถึงการพัฒนา
Smart Park ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก และการร่วมลงทุนกับ บมจ.บางจากฯ
ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาสถานีบริการน้ำมันบางจาก
และอาคารร้านค้าที่อยู่ภายในสถานีบริการ และยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจด้านนี้อย่างต่อเนื่อง

                
โดยในปีนี้ บีซีพีจีมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 200
เมกะวัตต์จากสิ้นปี 2560
ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนถือหุ้นรวมอยู่ที่ประมาณ 600 เมกะวัตต์
คาดว่าจะใช้งบลงทุนสำหรับการขยายกิจการใหม่และโครงการที่มีอยู่เดิมรวมทั้งสิ้นประมาณ
10,000 ล้านบาท
สำนักข่าวไทย

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว