สมชัยลงสมัครเลขาฯ กกต.ขอเป็นเรือเล็กคอยประคองเรือใหญ่

สำนักงาน กกต. 26 ก.พ.- “สมชัย” ลงสมัครเลขาฯ กกต.ตามคาด  อ้างยอมสละตัวเป็นทางออกประเทศ เป็นเรือเล็กคอยประคองเรือใหญ่ ยอมขัดใจภรรยาทั้งที่สั่งให้ลาออกไปทำงานอื่น  ให้โอกาส 4 กกต.เลือกอนาคตให้ตัวเอง วอนคนมีความสามารถมาสมัครเพื่อเป็นตัวเลือกจะไม่ล็อบบี้ หรือใช้สิทธิ์ในฐานะ กกต.โหวตให้ตัวเอง 


เมื่อเวลา 13.30 น. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานในการสมัครเป็นเลขาธิการ กกต. ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก มาติดตามทำข่าว เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่านายสมชัย จะลาออกจากตำแหน่ง กกต. โดยนายสมชัย ให้เหตุผลการลงสมัครเลขา กกต.ว่า  เนื่องจากเห็นว่าเหลือเวลาอีกเพียง 3 วัน แต่คนยังสมัครน้อย แต่สาเหตุหลักเพราะเห็นว่า คสช.มีเจตนาที่จะให้กกต.ชุดใหม่ที่มีคุณสมบัติสูงมีเอกภาพเป็นปลาน้ำเดียวทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งในทุกระดับ และเมื่อเกิดเหตุที่ประชุม สนช. ไม่รับรอง 7 กกต. ทำให้ต้องการสรรหาใหม่ ที่คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน  ราวเดือนสิงหาคมจึงจะได้ กกต.ชุดใหม่ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวหากมีการเลือกตั้งท้องถิ่นตามความต้องการของคสช. และยังต้องเจอปัญหา นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ความฉุกละหุกในการได้ กกต.ชุดใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีผลทำให้การจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นเกิดความไม่ราบรื่น 

นายสมชัย กล่าวว่า นอกจากนี้หากในเดือน ส.ค. การสรรหา กกต.ยังได้ไม่ครบ   ต้องมีการสรรหาเพิ่มก็ใช้เวลาเพิ่มเติมไปอีก 6 เดือน  โดยจะไปครบในเดือน ก.พ. 62  ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวอาจจะมีการเลือกตั้งทั่วไป ขณะเดียวกันนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. ก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี ในวันที่ 8 ก.พ.62  ปรากฎการณ์ทำนองนี้เชื่อว่าทำให้ฝ่ายอึดอัด เพราะ กกต.ชุดใหม่ที่มาก็ต้องทำงานทันที ไม่มีเวลาเรียนรู้งาน  ขณะที่ กกต.เก่าซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องพ้นไปเมื่อไหร่ แม้จะทำงานเต็มที่ แต่กลไกลการปฎิบัติจะไม่เอื้อให้เกิดประโยชน์ เพราะฝ่ายปฎิบัติจะมองว่าไม่ใช่ตัวจริง ดังนั้น ที่ตัดสินใจยื่นสมัคร  จึงเป็นการหาทางออกให้กับตัวเองและบ้านเมือง เพราะถ้าไม่ได้รับเลือกให้เป็นเลขาฯ ก็ยังทำหน้าที่ กกต. ช่วยในเรื่องของการเตรียมการเลือกตั้ง หรือถ้าได้รับเลือกเป็นเลขาฯ ก็จะได้ทำหน้าที่ให้การส่งมอบงานและช่วยการทำงานของ กกต.ชุดใหม่ให้เป็นไปอย่างราบรื่น 


“สิ่งที่ผมตัดสินใจในวันนี้ คงต้องใช้คำว่า  ไม่ได้สละเรือใหญ่โดดหนี กกต. 5 คน แต่หากเห็นว่าผมเหมาะสมกับตำแหน่งเลขาฯ อาจให้ผมโดดไปอยู่เรือเล็ก เพื่อที่จะทำหน้าที่สนับสนุนประคองเรือใหญ่  ซึ่งก็แล้วแต่ กกต. ผมจะไม่ล็อบบี้ใดๆ จะแข่งขันภายใต้ความเท่าเทียมกันของผู้สมัครทุกคน และให้กำลังใจกับผู้สมัครทุกคนที่มาสมัคร  ที่ผมลงไม่ได้แปลว่าผมจอง  หรือ กกต.จะเลือกผม  เพราะก็ต้องอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน คือต้องมีคุณสมบัติ แสดงวิสัยทัศน์ ยืนยันไม่ใช้สิทธิ์ความเป็น กกต.เอาเปรียบผู้สมัครคนอื่น ” นายสมชัยกล่าว  

นายสมชัย กล่าวว่า การสมัครก็ไม่ใช่เพราะอยากออกจากการเป็น กกต. แต่เห็นว่าแนวทางดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดวิกฤติ    เนื่องจากหาก กกต.4 คนเลือกตนเป็นเลขา  ซึ่งตามปฎิทินของกรรมการสรรหาฯ 1 มิ.ย.จะต้องมีเลขาฯคนใหม่  จะมีการเสนอให้ที่ประชุม กกต. พิจารณาในวันที่ 8 พ.ค.  ตนเองก็จะลาพักร้อนไม่ร่วมประชุม เพื่อให้ กกต.ตัดสินใจอย่างเสรี  ไม่ต้องเกรงใจ  หากได้รับเลือกก็จะต้องลาออกในวันที่ 31 พ.ค. มีผลทำให้ กกต.เหลือ 4 คน  ซึ่งก็ยังทำงานและลงมติเรื่องสำคัญได้  จนกระทั่งถึงวันที่ 7 ส.ค.ที่นายบุญส่งต้องพ้นไป ถ้าวันนั้นยังไม่ไม่มีคำสั่งจาก คสช.ให้ดำรงตำแหน่งต่อไป ก็จะทำให้เหลือ กกต.3 คน  ในเวลาสั้นๆ เพราะปลายสิงหาก็จะได้ กกต.ใหม่เข้ามาทำงานแล้ว  

“หาก กกต.เห็นว่าผมสมควรที่จะอยู่ในเรือใหญ่ ก็ลงมติเลือกคนอื่นเป็นเลขาฯ  ซึ่งการตัดสินใจของ กกต.ถือว่าเป็นเกียรติและจะทำหน้าที่ กกต.ต่อไปจนกว่า กกต.ใหม่จะมารับตำแหน่ง  แต่ถ้าหากให้ลงเรือเล็กก็ดีใจน้อยลงมาหน่อย  แต่ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการส่งมอบ ขอเป็นเรือเล็กที่ประคองเรือลำใหญ่  เพราะฉะนั้นทุกอย่างถือว่าลงตัวที่สุดในเชิงทางออก กกต.ใหม่จะมาเมื่อไหร่ก็ไม่เป็นปัญหา จะมีคนรู้เรื่องคอยดูแลให้และเป็นปลาน้ำเดียวอย่างที่ผู้มีอำนาจตั้งใจให้มาทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง โดยผมก็จะถอยไปเป็นอีกสปีชี่หนึ่งที่ต่ำกว่า คือ แมงกระพรุนที่อยู่ในทะเลเดียวกันได้” นายสมชัยกล่าว  


เมื่อถามว่าเป็นการเหยียบเรือสองแคมหรือไม่    นายสมชัย กล่าวว่า แล้วแต่จะคิด  แต่ดีกว่าออกจากเรือโดยไม่มีเยื่อใยแล้วเกิดปัญหาบ้านเมือง  เพราะตั้งแต่วันศุกร์ที่มีกระแสข่าวว่าจะลาออก ก็ได้มีคนส่งข้อความมาสนับสนุนให้ลาออก   โดยเฉพาะภรรยาที่เกือบจะเป็นคำสั่ง ว่าไม่ประสงค์ให้อยู่ในตำแหน่ง กกต.เลยอีกต่อไป ให้ไปทำงานอื่นที่สบายใจดีกว่า แต่ผมก็เห็นว่าไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาบ้านเมือง 

นายสมชัย ยืนยันการสมัครเป็นเลขาฯ ไม่ถือว่า ลดตำแหน่ง เพราะคนที่เคยเป็นนายกฯ ยังมาเป็นรองนายกฯ  คนที่เป็นรัฐมนตรียังมาเป็นรัฐมนตรีช่วยฯ ได้ จึงอยู่ที่ว่าเรารู้บทบาทในตำแหน่งหน้าที่ที่ทำอยู่หรือไม่ อย่างตนถ้าได้เป็นเลขาฯ การพูดจาก็จะสงบเสงี่ยมมากขึ้น แถลงเฉพาะที่เป็นมติที่ กกต.มอบหมาย  และ หากกกต.ไม่พอใจผลการทำงานในแต่ละปีที่จะต้องมีการประเมิน ก็สามารถเลิกจ้างโดยจะไม่มีเสียงโวยวายจากตนเลย    

เมื่อถามย้ำว่าการสมัครครั้งนี้ได้เปรียบผู้สมัครคนอื่น ๆหรือไม่ โดยเฉพาะคนใน กกต.ด้วยกัน นายสมชัย กล่าวว่า อยู่ที่จะมอง ตนไม่ได้มองหรือคิดเรื่องนี้ มองแต่ทางออกของชีวิตและทางออกของบ้านเมือง  ซึ่งทางออกนั้นจะเป็นอย่างไร กกต.อีก 4 คนจะตัดสินใจ  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ขอโทษ อ้างป้องกันตัว

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเอามีดฟัน อ้างไม่ใช่คู่กรณี แต่เห็นคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปห้าม แต่ “เป๊ก” ปรี่เข้าหา จึงชักมีดพกขึ้นมาป้องกันตัว อยากขอโทษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกมีดฟันบาดเจ็บในปั๊มน้ำมันซอยรามคำแหง 76 เขตบางกะปิ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับสายตรวจและอาสากู้ภัย พบคนเจ็บคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง ถูกมีดฟันใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือ นายชุติเทพ อายุ 21 ปี ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธมีดยาว 20 เซนติเมตร ที่ใช้ฟันเป๊ก ผลิตโชค ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นนายชุติเทพ ให้การอ้างขับรถไปรับแฟนออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะแวะปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เห็นมีคนกำลังทะเลาะกัน คล้ายมีอาการมึนเมา อยู่ท้ายรถกระบะ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเคลียร์ […]

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย