ก.คลัง 26 ก.พ. – คลังเผยเดือนมกราคมเศรษฐกิจไทยขยายตัวดี ส่งออกขยายตัวสูงสุดในรอบ 62 เดือน คาดทั้งปีขยายตัวร้อยละ 6.6
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือนมกราคม 2561 ว่า เศรษฐกิจไทยเดือนมกราคม 2561 ขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านอุปสงค์ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน และขยายตัวสูงสุดในรอบ 62 เดือน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเดือนมกราคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 17.6 ต่อปี มีมูลค่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนหนึ่งมาจากการที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น โดยหมวดสินค้าสำคัญที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ ยานพาหนะอุปกรณ์และส่วนประกอบ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตรกรรม และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น ขณะที่ประเทศคู่ค้าขยายตัวได้ดี เช่น อาเซียน-9 ญี่ปุ่น อาเซียน-5 อินเดีย อินโดจีน (CLMV) จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นสำคัญ คาดทั้งปีส่งออกขยายตัวร้อยละ 6.6
ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่เดือนมกราคม 2561 ขยายต่อเนื่องร้อยละ 6.9 ต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวได้ดีจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการใช้จ่ายภายในประเทศและภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า สำหรับปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งเดือนมกราคม 2561 ขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 นับตั้งแต่ต้นปี 2560 และขยายตัวสูงถึงร้อยละ 27.3 ต่อปี โดยเป็นผลจากการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ที่ออกสู่ตลาดในช่วงปลายปีของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ขณะที่ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่มกราคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 3.5 ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวทั้งในเขตกรุงเทพฯ และในเขตภูมิภาค สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ระดับ 67.0 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 เป็นต้นมา
สำหรับการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งจากการลงทุนหมวดเครื่องมือเครื่องจักรและหมวดก่อสร้างที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์เดือนมกราคม 2561 ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 10.2 ต่อปี จากยอดจำหน่ายรถกระบะขนาด 1 ตัน เป็นสำคัญ ขณะที่การลงทุนหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศในเดือนมกราคม 2561 ขยายตัวที่ร้อยละ 1.1 ต่อปี
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยขยายตัวระดับสูงในเดือนมกราคม 2561 ขยายตัวร้อยละ 10.9 ต่อปี โดยนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีมาจากจีน รัสเซีย เกาหลีใต้ ลาว อินเดีย และยุโรปตะวันออก เป็นหลัก ส่งผลให้มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 189,000 ล้านบาท สำหรับดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 13.0 ต่อปี เป็นผลจากหมวดพืชผลสำคัญ หมวดปศุสัตว์ และหมวดประมง ที่ขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) อยู่ที่ระดับ 91.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 36 เดือน โดยมีปัจจัยบวกจากการบริโภคภายในประเทศ ที่ขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2560 และการใช้จ่ายด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดีและเสถียรภาพภายนอกอยู่ในระดับที่มั่นคง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.7 ต่อปี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีสิ้นเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 41.2 ต่อจีดีพี ส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศสิ้นเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ระดับ 214.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้น 3.3 เท่า.- สำนักข่าวไทย