ตูน บอดี้สแลม มอบเงินให้ 11 รพ.พรุ่งนี้

สำนักข่าวไทย 24 ก.พ. –  ตูน บอดี้สแลม เตรียมมอบเงินบริจาคในโครงการก้าวคนละก้าว 1,300 ล้านบาท  ให้ 11 รพ.พรุ่งนี้  ย้ำมั่นใจการทำงานโรงพยาบาล จะนำเงินไปใช้ตามเป้าวัตถุประสงค์ได้อย่างครบถ้วน พร้อมจัดวิ่งหาเงินซื้อเครื่องเอ็กซ์เรย์มอบให้รพ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี 


 นายชายชาญ  ใบมงคล ครีเอทีฟและที่ปรึกษาโครงการก้าวคนละก้าว     กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ ทีมงานโครงการก้าวคนละก้าว ประกอบด้วย ตูน บอดี้ สแลม  เตรียมจัดงาน มอบเงินบริจาค ในโครงการจำนวน  1,300 ล้านบาท ที่เป็นการจัดเงินบริจาคงวดแรกในโครงการ ให้กับ 11 โรงพยาบาล เพื่อนำไปจัดสรรซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่แต่ละโรงพยาบาลตั้งใจจัดซื้อไว้ โดยพิธีมอบจะมีในเวลา  15.00 น.  ที่สวนวชิรเบญทัศ  ประกอบด้วย . 1.  โรงพยาบาลยะลา 91 ล้านบาท  ,2. โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี 136.5 ล้านบาท ,3. โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี 130 ล้านบาท ,  4. โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี 91 ล้านบาท ,5. โรงพยาบาลสระบุรี 104 ล้านบาท  ,6. โรงพยาบาลขอนแก่น 143 ล้านบาท , 7. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี 91 ล้านบาท,  8. โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ 91 ล้านบาท,9. โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ 110.5 ล้านบาท , 10. โรงพยาบาลน่าน 91 ล้านบาท  และ 11. โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 221 ล้านบาท   หลังจากนี้โครงการดังกล่าว ก็จะยังเปิดการรับบริจาคไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.  และจะปิดการรับบริจาค และแบ่งสรรเงินบริจาคที่เหลืออีกครั้ง  ซึ่งการบริหารจัดการเงินที่มาจากจิตศรัทธาของประชาชน เชื่อมั่นว่าทุกโรงพยาบาล จะมีการตั้งคณะทำงาน ติดตามและตรวจสอบเงินบริจาคให้เกิดประโยชน์สูงสุด  จากนั้นจะลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าเป็นระยะ 


นายชายชาญ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) ทางทีมงานก้าวคนละก้าว ยังจะจัดกิจกรรม ลองRUN  2018   วิ่งระยะทาง 5 กิโลเมตร  เพื่อระดมเงินบริจาคสมทุนจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ที่ทำการขอความช่วยเหลือแบบเร่งด่วน เนื่องจากโรงพยาบาลไม้แก่น ประสบปัญหาเครื่องเอ็กซ์เรย์ 2 เครื่องชำรุด ต้องการเงินจำนวน 4 ล้านบาท ไปดำเนินการจัดซื้อ หากพรุ่งนี้สามารถดำเนินการได้เป้าก็ถือว่าเรียบเรียบ และจะไม่มีนำเงินบริจาคในโครงการก้าวคนละก้าวเข้าไปสมทบแน่นอน เพราะเป็นคนละวัตถุประสงค์กัน.


สำหรับเงินบริจาค แต่ละโรงพยาบาลนำไปใช้แตกต่างกัน    รพ.พระมงกุฎเกล้า นำไปจัดซื้อเครื่องมือแพทย์พัฒนางานอุบัติเหตุ เพื่อศูนย์ความเป็นเลิศ  รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ นำไปพัฒนาระบบส่งต่ออุบัติเหตุ เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว  และติดตั้งระบบเทเลเมดิซีน (ระบบสื่อสารโทรคมนาคมในรถฉุกเฉิน) รพ.เจ้าพระยายมราช พัฒนาศูนย์หัวใจ  เป็นต้น   -สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง