พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนพังราบ

ภูมิภาค 24 ก.พ.-พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนใน 3 ตำบล 2 อำเภอพังราบเป็นหน้ากอง เสียหายกว่า 70 หลังคาเรือน


พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนใน 3 ตำบล 2 อำเภอพังราบเป็นหน้ากอง ทำให้บ้านเรือนประชาชนในตำบลเนินปอ ตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม และตำบลบึงบัว อำเภอวชิรบารมี เสียหายจำนวนกว่า 70 หลังคาเรือน โดยลมพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นเป็นลมหมุนพัดหลายตลบ บ้านไม้มุงด้วยหลังคาสังกะสีและแผ่นกระเบื้อง ไม่สามารถต้านทานความแรงของลมพายุไว้ได้ จึงพังเสียหายและแผ่นสังกะสี กระเบื้องปลิวไปความแรงของลมพายุไกลหลายร้อยเมตร ส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ยังทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ปลูกไว้ในหมู่บ้าน หักโค่นล้มลงมาทับเสาไฟฟ้าในหมู่บ้านพังเสียหาย รวมทั้งปิดทับเส้นทางเข้าออกระหว่างหมู่บ้าน ทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้สวนกล้วยน้ำว้าและพื้นที่การทำนาปลูกข้าวก็ได้รับผลกระทบ ลำต้นหักโค่นและเกิดน้ำท่วมขัง


เช้านี้ พลตรีวิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 นำกำลังพลทหารเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน เร่งซ่อมแซมหลังคาบ้านและตัวบ้านให้คืนกลับมาและมีความมั่นคงแข็งแรง เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยายังคงประกาศเตือนภัย ให้ระมัดระวังอันตรายจากลมพายุฤดูร้อน ประกอบกับสภาพอากาศในพื้นที่ ยังถูกปกคลุมไปด้วยเมฆฝนและลมพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำเติมเป็นครั้งที่สองได้

พายุแรง ลูกเห็บตก กิ่งไม้ยักษ์โค่นใส่ชาวบ้านเจ็บ

เมื่อเย็นวานนี้ เกิดพายุฝนฟ้าคะนองพัดกระหน่ำในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในตัวเมืองตัวเมืองเชียงรายนอกจากพายุฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรงยังเกิดพายุลูกเห็บขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ถึง 2 เซนติเมตร ตกด้วยซึ่งเกิดนานกว่า 30 นาทีส่งผลให้กิ่งไม้ริมถนนสายต่างๆ หักโค่นขวางการจราจรบนถนนหลายสายและแรงพายุยังทำใหป้ายโฆษณาพังเสียหายหลายจุด นอกจากนั่นยังทำให้กระแสไฟฟ้าในตัวเมืองเชียงรายดับเป็นวงกว้างเพราะสายไฟฟ้าขาดเสียหายเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตส่วนความเสียหายในส่วนของสิ่งปลูกสร้างและพืชผลทางการเกษตรอยู่ระหว่างการสำรวจ

รวมทั้งที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ กิ่งต้นยางนายักษ์ขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 2 เมตร หักหล่นลงมา ถูกชายสูงวัย อายุประมาณ 60 ปี ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ จากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้าไปทางอำเภอสารภี บริเวณหน้าหอพัก กิ่งกาญจน์อพาร์ตเมนต์ หมู่บ้านป่าแคโยง ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จนแขนหัก และรถจักรยานยนต์ล้ม จนได้รีบบาดเจ็บสาหัส หลังพายุลมแรงสงบ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล


นายพงศกร จันต๊ะรังสี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ช่วงเกิดเหตุมีพายุลมแรงมาก และยังมีลูกเห็บ ขนาดเท่าเม็ดมะขาม ตกลงมา และทำให้กิ่งต้นยางยักษ์ ที่มีความสูงกว่า 20 เมตร ซึ่งเป็นกิ่งดิบ หักลงมาบนถนน หล่นใส่ชายสูงวัย จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพายุลมแรง และลูกเห็บตก นานประมาณ 5 นาทีจึงสงบ จนมีใบไม้ปลิวกระจัดกระจาย ตามหน้าบ้านเรือนประชาชน จนชาวบ้านต้องออกมาเก็บกวาด ทำความสะอาด  ส่วนชาวบ้านที่ขับขี่รถ ต้องจอดหาที่หลบภัย          

พายุฤดูร้อนถล่ม เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ


ลมพายุพัดหลังคาบ้านประชาชนในพื้นที่ ตำบลห้วยแก อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ปลิวหากว่า 15 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือ

บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ตำบลห้วยแก อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น กว่า 15 หลังคาเรือน ได้รับความ เดือดร้อนหลังประสบภัยลมพายุกรรโชกแรง โดยที่ได้รับผลกระทบหนักสุด บ้านเลขที่ 2 บ้านหนองสะแบง หมู่ 8 ตำบลห้วยแก อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านบ้านยกสูง 2 ชั้น แบบบ้านทรงเก่า สภาพหลังคาบ้าน ได้ถูกลมพายุพัดหลังคาบ้านปลิวหายไปทั้งหลังคงเหลือแต่โครงหลังคาไว้ดูต่างหน้า ขณะที่ฝาบ้านที่เป็นไม้ กระดานที่ถูกแรงลมพายุพัดเสียหายเป็นบางส่วน

นางก้อน โทอื้น อายุ 80 ปี เจ้าของบ้านได้เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อช่วงดึกของวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกอย่างหนักและมีลมพายุพัดรุนแรงจนพัดหลังคาบ้านปลิวไปตกห่างจากบ้านประมาณ 20 เมตร ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเกิดลมพายุรุนแรงขนาดนี้มาก่อน

นายสมชาย ขาวภา นายก อบต.ห้วยแก พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบให้ความ ช่วยเหลือซ่อมแซมหลังคาบ้านที่เสียหายให้พอได้อยู่อาศัยไปก่อน และมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือบางส่วน ในเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดของชาวบ้านแล้ว พร้อมให้สำรวจบ้านเรือนไม่มั่นคงแข้งแรง เพื่อจะได้เข้าไปซ่อมแซมก่อนที่จะเกิดพายุฤดูร้อนซ้ำอีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย