กรุงเทพฯ 23 ก.พ. – พพ.จับมือสภาวิศวกรยันกฎกระทรวง BEC ช่วยกลุ่มอาคารประหยัดได้จริงร้อยละ 10 ชี้กลุ่มผู้ประกอบการคอนโดกระทบต้นทุนก่อสร้างเพียงเล็กน้อยแต่คุ้มทุนได้เร็ว พร้อมได้ประโยชน์หลายต่อ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและช่วยประเทศประหยัดพลังงาน
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า กรณีที่กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท หรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.…. (Building Energy Code : BEC) เบื้องต้นจะมีการบังคับใช้เดือนตุลาคม 2561 พพ.ขอยืนยันว่าตามเป้าหมายของกฎกระทรวงฯ BEC จะช่วยให้กลุ่มอาคารที่ดำเนินการสามารถประหยัดพลังงานได้ขั้นต่ำร้อยละ 10 และสามารถคืนทุนจากการลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงานเฉลี่ยภายใน 3 ปีจะไม่กระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ คาดว่าตามกฏกระทรวงฯ BEC จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินการเพียงเล็กน้อยประมาณร้อยละ 5
ทั้งนี้ จากกรณีที่มีผู้ประกอบการภาคเอกชนบางรายระบุว่ากฎกระทรวงฯ BEC จะทำให้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 40 นั้น น่าจะเกิดความคาดเคลื่อน เพราะ BEC จะบังคับการติดตั้งระบบอุปกรณ์ประหยัดพลังงานระดับมาตรฐานเบื้องต้นไม่ได้เป็นระดับมาตรฐานอาคารเขียวของสหรัฐอเมริกา หรือ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูงซึ่งมองมากกว่ามิติด้านพลังงานที่จะมีการลงทุนสูงจากอุปกรณ์ที่มีความต้องการประหยัดพลังงานเข้มเข้น ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นอาคารที่สมัครใจดำเนินการเองและมีเป้าหมายที่จะคว้ารางวัลโดยตรง
“ร่างกฎกระทรวง BEC มีการชี้แจงและหารือร่วมกับทุกภาคส่วนมาอย่างต่อเนื่องหลายปี เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความพร้อมในการเตรียมตัวเพื่อส่งเสริมการออกแบบ การรับรองแบบ อาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งขณนี้ได้รับความร่วมมือจากทั้งกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อาคารที่อยู่อาศัย อาทิ กลุ่มลุมพินี กลุ่มพฤกษาเรียลเอสเตท บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ บ.นารายณ์พร็อพเพอร์ตี้ ฯลฯ รวมถึงความร่วมมือกับสภาวิศวกร กับสภาสถาปนิก เป็นต้น” นายประพนธ์กล่าว
นายกมล ตรรกบุตร นายกสภาวิศวกร กล่าวเสริมว่า ร่างกฎกระทรวง BEC ดังกล่าวที่เตรียมจะบังคับแม้ว่าจะส่งผลให้เกิดการลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น แต่ควรมองในแง่ของการประหยัดที่จะได้รับกลับมาด้วย ซึ่งภาพรวมจะมีความคุ้มทุนแน่นอน ขณะเดียวกันปัจจุบันกระแสของการอนุรักษ์พลังงานทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว โดยต้นทุนที่จะสูงขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับการออกแบบและพื้นที่ จึงประเมินได้ยากว่าจะระดับใด แต่ภาพรวมไม่มากภายใต้ BEC นี้ เพราะไม่ใช่ระดับเข้มข้นเป็นระดับมาตรฐานพื้นฐานที่สอดรับกับสากล แต่การประหยัดพลังงานเป็นสิ่งที่จะได้รับกลับมาจากการลงทุนจึงต้องมองมุมนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม กฎกระทรวงฯ BEC จะบังคับใช้กับอาคารที่จะก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลง 9 ประเภทอาคารได้แก่ สถานพยาบาล สถานศึกษา สำนักงาน อาคารชุด อาคารชุมนุมคน (หอประชุม) โรงมหรสพ โรงแรม อาคารสถานบริการ และอาคารศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป โดยจะต้องออกแบบอาคารภายใต้เกณฑ์ที่ระบุในกฎกระทรวง เช่น ระบบปรับอากาศ ไฟฟ้าแสงสว่าง ผลิตน้ำร้อน การใช้พลังงานหมุนเวียน ฯลฯ โดยการบังคับจะเริ่มจากอาคารขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมก่อนโดยปีที่ 1 บังคับกับอาคาร ขนาดตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป ปีที่ 2 บังคับกับอาคาร ขนาดตั้งแต่ 5,000 ตารางเมตรขึ้นไป และปีที่ 3 บังคับกับอาคารขนาดตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตร.-สำนักข่าวไทย