กรุงเทพฯ 23 ก.พ. – กระทรวงคมนาคมแจง ม.เกษตร ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ลดปัญหาจราจรติดขัดบนถนนประเสริฐมนูกิจ-งามวงศ์วาน-รัตนาธิเบศร์ ย้ำมีมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งเสียงและฝุ่นละออง
กระทรวงคมนาคมส่งเอกสารชี้แจงกรณีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่แถลงข่าวคัดค้านโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ แนวเส้นทางทางด่วนทดแทน N1 เพื่อต่อเชื่อมตอน N2 เข้ากับโครงข่ายทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกนั้น ปัจจุบันระบบโครงข่ายถนนสายหลักตอนกลางที่รองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างด้านตะวันออกกับตะวันตกของกรุงเทพมหานครมีเพียงถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนงามวงศ์วาน และถนนประเสริฐมนูกิจ ซึ่งเป็นถนนระดับพื้นดิน แม้จะมีการก่อสร้างสะพานลอยข้ามทางแยก สร้างอุโมงค์รอดทางแยกที่เป็นจุดตัดหลายแห่งบนถนนดังกล่าวแล้วก็ตาม แต่ยังไม่สามารถรองรับปริมาณความต้องการการเดินทางที่มีมากกว่าความจุของโครงข่ายถนนดังกล่าวได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต จนเกิดปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น การมีโครงข่ายทางพิเศษเชื่อมต่อระหว่างวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกกับด้านตะวันตกจะช่วยลดปัญหาการจราจรบนถนนระดับพื้นดินในเขตเมือง ทำให้การเดินทางระหว่างฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานครมีความสะดวกรวดเร็วขึ้น และยังเป็นการเชื่อมโยงระบบโครงข่ายการเดินทางด้วยทางพิเศษให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
สำหรับการสร้างและเชื่อมทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N2, E-W Corridor และโครงข่ายทางด่วนทดแทน N1 เพื่อต่อเชื่อมกับทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานครจะช่วยแยกปริมาณจราจรที่ต้องการเดินทางข้ามพื้นที่กลางเมือง (Through traffic) ออกจากปริมาณจราจรในพื้นที่ (Local traffic) จึงเป็นการช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนประเสริฐมนูกิจ ถนนงามวงศ์วาน และถนนรัตนาธิเบศร์ ทำให้ผู้ใช้ถนนดังกล่าวสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ส่งผลให้มลพิษทางอากาศที่เกิดจากการจราจรติดขัดบนถนนทั้ง 3 สายลดลง
ส่วนการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 ตอน N2, E-W Corridor และทางด่วนทดแทน N1 ซึ่งจะมีแนวเส้นทางต่อจาก N2 บริเวณแยกบางบัวขึ้นไปด้านเหนือเรียบขนานคลองบางบัวจนถึงถนนวิภาวดีรังสิต แล้วคู่ขนานกับถนนวิภาวดีรังสิตมาทางด้านใต้จนถึงแยกรัชวิภา แล้วเชื่อมต่อกับทางเชื่อมดอนเมืองโทลเวย์กับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานคร โดยไม่ผ่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อระหว่างวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกกับด้านตะวันออกสะดวกและรวดเร็ว การดำเนินโครงการทางด่วนดังกล่าวนี้ได้มีการกำหนดมาตรการป้องกันแก้ไขและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้านต่าง ๆ รวมถึงการติดตามผลกระทบอย่างต่อเนื่องด้วย เช่น การติดตั้งกำแพงกั้นเสียง 2 ข้างทางของทางด่วน เพื่อลดผลกระทบด้านเสียงและฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย เช่น ทางด่วนขั้นที่ 2 ช่วงที่สร้างค่อมคลองประปาที่ประชาชนเคยวิตกกังวลกัน ก็ได้มีการดำเนินมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยกระทรวงคมนาคมจะประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิดกำหนดมาตรการด้านฝุ่นละอองให้ครอบคลุมต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ภายใต้โครงการศึกษาแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย – ลำสาลีเพื่อทดแทนแนวเส้นทาง N1.-สำนักข่าวไทย