สถาบันพระปกเกล้า 20 ก.พ.-สถาบันพระปกเกล้า เปิดตัวหนังสือวิเคราะห์ นายกฯ ม.7 “ไชยันต์” แจงการไม่มีเจ้าภาพ-ต้องตีความประเพณีการปกครอง เสี่ยงทำวุ่น ด้าน “นรนิติ” ชี้เป็นอำนาจศาล รธน.ตีความเพื่อหาทางออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ก.พ.) ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการ สถาบันพระปกเกล้า จัดเสวนาเปิดตัวหนังสือ “ประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข : บทวิเคราะห์มาตรา 7 จากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 ถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (มุมมองทางรัฐศาสตร์)” ที่นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้เขียนขึ้น ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสถาบันพระปกเกล้า
นายไชยันต์ กล่าวว่า ตนสนใจเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นต้นเหตุของวิกฤตการณ์ทางการเมืองถึง 2 ครั้ง คือปี 2549 และปี 2556 ซึ่งมีการยกประเด็นมาตรา 7 ขึ้นมาอ้าง ทั้งนี้ปกติมาตรา 7 จะไม่ถูกบรรจุในรัฐธรรมนูญฉบับถาวรเลย แต่เริ่มมีมาหลังจากรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นต้นมา แต่ไม่มีการเขียนไว้ชัดเจนว่าใครเป็นเจ้าภาพในเรื่องมาตรา 7 ทั้งที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ มีการระบุคณะบุคคลที่จะมาวินิจฉัยมาตรา 7 ไว้ชัดเจน คือ ให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญจัดให้มีการประชุมร่วมระหว่างประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานองค์กรอิสระเพื่อวินิจฉัย แต่สุดท้ายร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวก็ถูกคว่ำไป และในรัฐธรรมนูญปี 2560 ก็ไม่ได้ระบุผู้ที่เป็นเจ้าภาพไว้ ดังนั้นหากหลังเลือกตั้งแล้วไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนในได้ และไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้เขียนไว้ว่าต้องทำอย่างไร ก็ต้องว่ากันตามประเพณีการปกครอง แต่ก็จะต้องมาตีความว่าประเพณีการปกครองของประเทศไทยจะต้องทำอย่างไร คือการนำมาสู่นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ใช่หรือไม่
ด้านนายนรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ตนเห็นว่าวันนี้การตีความเรื่องนี้คนจะตีความได้ คือศาลรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้นเรื่องมาตรา 5 ไม่ใช่เรื่องการตั้งนายกรัฐมนตรีอย่างเดียว แต่คลอบคุลมถึงทุกเรื่องที่มีปัญหาแล้วไม่มีทางออก ซึ่งเป็นความหมายที่กว้างมาก
“ดังนั้นมาตรา 5 จริง ๆ จึงถือเป็นยาทั่วไป หากไม่มีทางออกก็ต้องมาใช้มาตรานี้ ที่เปิดทางให้แก้ปัญหาวิกฤติได้ในหลาย ๆ อย่าง” นายนรนิติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย