กฟผ.พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและกระบี่

กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – กฟผ.เผยพร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล หลังรมว.พลังงานลงนามเอ็มโอยูถอนรายงาน EHIA โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา


นายสืบพงษ์ บูรณศิรินทร์ รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.พร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลในเรื่องของโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพา โดย กฟผ.รับทราบอย่างเป็นทางการ หลัง รมว.พลังงานไปลงนามข้อตกลงเบื้องต้นหรือเอ็มโอยูกับกลุ่มผู้คัดค้านโรงไฟฟ้าหน้าสหประชาชาติเช้านี้ ซึ่งตามหลักการคือหากให้ศึกษาศักยภาพเหมาะสมหรือ SEA ใหม่ ก็ต้องใช้เวลา9 เดือน หลังจากนั้นจึงศึกษาจัดทำ EIA และ EHIA ต่อไป


ว่าที่พันตรีอนุชาต ปาลกะ วงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการชุมชนสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อมโครงการ กฟผ . กล่าวว่า กฟผ. พร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล โดยโครงการกระบี่อยู่ระหว่างการเริ่มทำอีไอเอและอีเอชไอเอรอบใหม่ ส่วนโรงไฟฟ้าเทพา ในส่วนของอีเอชเอโรงไฟฟ้าได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะผู้ชำนาญการแล้ว เหลือเพียงการพิจารณาในส่วนอีไอเอท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหิน ซึ่งหลัง รมว.พลังงานลงนามเอ็มโอยูเช้านี้แล้วก็คงต้องไปปรึกษากับทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อ จะให้ กฟผ.ถอนการเสนอพิจารณาเหมือบรอบที่แล้วที่เสนอถอนอีไอเอ/อีเอชไอเอโครงการกระบี่ตามคำสั่งของนายรัฐมนตรีหรือไม่ โดยโรงไฟฟ้ากระบี่เริ่มศึกษาโครงการเมื่อปี 2555 และเทพาเริ่มปี 2557 

” โรงไฟฟ้าถ่านหินมีทั้งกลุ่มหนุนกลุ่มต้านก็ต้องศึกษาและพูดคุยกันบนผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งก็ต้องดูเรื่องความมั่นคง ทั้งรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันและในอนาคต” ว่าที่พันตรีอนุชาต กล่าว


ทั้งนี้ ในวันนี้ (20 กพ61) นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้เดินทางไปพบเครือข่ายต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินซึ่งอดข้าวประท้วงบริเวณหน้าองค์การสหประชาขาติและได้ลงนามข้อตกลงกับเครือข่ายฯ โดยสาระสำคัญ คือ 

1.ให้ กฟผ.ถอนรายงาน EHIA.รฟฟ.เทพาและกระบี่ออกจาก สนง.นโยบายและแผน (สผ.) ภายใน 3 วัน นับแต่วันลงนาม

2.ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการจัดทำรายงานเชิงยุทธศาสตร์ (HEA) ว่าพื้นที่ดังกล่าวเหมาะสมในการสร้าง รฟฟ.ถ่านหินหรือไม่ โดยนักวิชาการที่เห็นชอบทั้งสองฝ่าย ซึ่งหากผลการประเมินได้ข้อสรุปว่าไม่เหมาะสม ทาง กฟผ.จะต้องยุติโครงการฯ ทันที โดยกระบวนการดังกล่าวจะต้องทำให้เสร็จภายใน 9 เดือนนับแต่วันลงนาม.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าจะเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม