ดัชนีชี้วัดความทานทนต่อการทุจริตคอรัปชั่นไทยลดลง คนมีจิตสำนึกต้านคอรัปชั่นมากขึ้น

กรุงเทพ 17ก.พ.-อดีตประธานป.ป.ช. ชี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ปัญหาคอรัปชั่น ด้านผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจม.หอการค้าไทย เผยดัชนีชี้วัดความทานทนต่อการทุจริตคอรัปชั่นไทยลดลง และคนมีจิตสำนึกต้านคอรัปชั่นมากขึ้น ขณะที่ภาครัฐมุ่งมั่นวางกฎหมายแก้ปัญหา ชี้เป็นช่วงที่ประเทศไทยมีความพร้อมแก้ปัญหาคอรัปชั่นทุกมิติ


นายปานเทพ  กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการปฎิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต อดีตประธานคณะกรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า การทุจริตคือปัญหาสำคัญของประเทศ ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไข โดยรัฐธรรมปี 2560 ได้ออกกฎหมาย หลายฉบับ  เช่น  พ.ร.บ.ต่อต้านการทุจริต  พ.ร.บ.ต่อต้านทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้การจัดซื้อ จัดจ้างมีความโปร่งใสมากขึ้นและการทุจริตลดลงจำนวนมาก   ทั้งนี้การแก้ปัญหาตัองสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบ ภาครัฐและเอกชน รัฐจะต้องให้ความรู้แก่ประชาชนและมีกลไกในการดูแลป้องกันการต่อต้านการทุจริต พร้อมกันนี้ มีการทำแผนปฏิรูปทั้งด้านการปราบปรามการทุจริต การบริหารจัดการ เน้นให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ที่สำคัญการแก้ปัญหาต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วนทั้งประเทศ               

นายปานเทพ ยอมรับว่า ภาพรวมการทุจริตของไทยมีดัชนีชี้วัดความโปร่งใสในปี 2559 ยังไม่ดี อยู่ที่ลำดับ 101ซึ่งจะต้องมีการแก้ไข  การดำเนินการต่อต้านการคอร์รัปชั่นที่ผ่านมา รัฐบาลได้ให้การสนับสนุน เต็มที่ ส่วนภาพรวมการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นใน2560 ขณะนี้ผลคะแนนยังไม่ออกมา ซึ่งเป็นการท้าทายและผลคะแนนจะออกมาอย่างไรก็จะมุ่งมั่นแก้ปัญหาทุจริตต่อไป


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการจัดทำตัวเลขเกี่ยวกับดัชนีสถานการณ์ทุจริตคอรัปชั่น ว่าต้องยอมรับว่าตัวสถิติเป็นตัวชี้สถานการณ์ทุจริตที่ชัดเจน ซึ่งดำเนินการมาทั้งหมด 7 ปี  โดยใช้วิธีที่ต่างชาติทำตรงตามหลักสากล  มาตรฐานคือคะแนน 0-100 ซึ่งในปี2553 ดัชนีอยู่ที่ 35  หมายความว่าไทยอยู่ในเกณฑ์ทุจริตคอรัปชั่นที่รุนแรง หรือเรียกง่ายๆว่าสอบตกจาก 50 คะแนน  ล่าสุดคะแนนขึ้นมาที่ 52  คะแนน  หมายความว่าสถานการณ์คอรัปชั่นของเรานั้นดีขึ้น ในรอบ 7 ปี และถือว่ามีปัญหาปานกลาง แนวทางในการดูแลปัญหาคอรัปชั่นทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรวมทั้งภาคสังคมและประชาชนนั้นมีการตระหนักถึงปัญหาการคอรัปชั่นมากขึ้น  โดยมาตรการวัดเรื่องทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งดูได้จาก 4 องค์ประกอบ ดัชนีปัญหาและความรุนแรงของการคอรัปชั่น ,ดัชนีการป้องกันการคอรัปชั่น,ดัชนีการปราบปรามการคอรัปชั่น,ดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึก ผลคือดัชนีทุกรายการมีดัชนีที่เกินกว่าระดับ  50 ทุกดัชนี นั่นหมายความว่าตลอด 7 ปีที่ผ่านมา และในรอบ 3 ปีที่รัฐบาลชุดนี้ได้เข้ามาแก้ปัญหาด้วยการวางรากฐานและวางกฎระเบียบกฎหมายป้องกันคอรัปชั่นตลอดจนการสร้างเครือข่ายร่วมกันต่านปัญหาคอรัปชั่นได้ดีขึ้น

นายธนวรรธน์  กล่าวว่า ขณะเดียวกันเรื่องการปราบปรามปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นนั้น ดัชนีเกินกว่าระดับ 50 เป็นเรื่องของปัญหาที่มีการแก้ไขคอรัปชั่นที่ดีและคนไทยมีจิตสำนึกที่ดีขึ้นในการมองเป็นเรื่องใกล้ตัว ตระหนักถึงปัญหาโดยจะเห็นได้จากดัชนีความสามารถที่จะทานทนต่อการทุจริตคอรัปชั่น พบประเทศไทยมีคะแนนอยู่ที่ดีที่สุด คือ 2 จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งเดิมมีคะแนนอยู่ที่ 3 ซึ่งทุกประเทศต้องการผลักให้คะแนนอยู่ที่ใกล้ศูนย์เพราะตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งดี คือต้องการให้คนไทยไม่ทนทานต่อการคอรัปชั่นแต่การสำรวจที่พบปัญหาคือคนมีความกังวลว่าปัญหาทุจริตคอรัปชั่นจะกลับมา เพราะดัชนีอยู่ต่ำกว่า 50 ปัจจุบันอยู่ที่ 42 เพราะคนกังวลเรื่องนี้มาก แม้ว่าประสบการณ์อัตราการจ่ายเงินใต้โต๊ะจะลดลงจากเดิมปี 2553-2556  จ่ายร้อยละ20-25 ปัจจุบัน เหลือเพียงร้อยละ 5-15 ซึ่งถือว่าน้อยลงทั้งอัตราและจำนวนคน  อย่างไรก็ตามประชาชนยังต้องการให้ภาครัฐมุ่งมั่นจริงจังในการแก้ปัญหาคอรัปชั่น และมุ่งส่งเสริมข้อตกลงคุณธรรม มาใช้เป็นกลไกดูแลในการจัดซื้อจัดขาย ตลอดจนการประมูลต่างๆเพื่อแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นให้มีกระบวนการดูแลควบคุมกฎหมาย

นายธนวรรธน์  ยังกล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมการทุจริตคอรัปชั่นว่า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมาก ในการดูแลและแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นของคนไทยทั้งประเทศ เพราะคนไทยมีความพร้อมและไม่สามารถทานทนต่อปัญหานี้ได้ รวมทั้งมีกฎระเบียบและการวางเครือข่ายที่ดี จึงน่าเป็นช่วงที่ประเทศไทยจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ไปพร้อมๆกันทุกภาคส่วนและน่าจะทำให้ปัญหานี้ลดน้อยถอยลงไปในที่สุด


“ปัญหาคอรัปชั่นเป็นปัญหาที่บั่นทอนเศรษฐกิจมาตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เพราะต้องยอมรับว่าในอดีตมีปัญหาคอรัปชั่นสูง แต่จากการสอบถามทุกภาคส่วนทั้งราชการและเอกชนพบว่า การบังคับใช้กฎหมายดีขึ้น มีกฎระเบียบที่ป้องกันการคอรัปชั่นมากขึ้น การปราบปรามดีขึ้นและแน่นอนว่าทุกเครือข่ายให้ความร่วมมือ ถือเป็นกรอบที่ดี จากประสบการณ์ของฮ่องกงและสิงคโปร์ ที่มีเรื่องคอรัปชั่นหนักกว่าไทยบอกว่าการแก้ปัญหาที่สำคัญคือ ประชาชนต้องพร้อมและมองว่าการทุจริตเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ซึ่งประเทศไทยมาถึงจุดนี้แล้ว ที่คนและกฎหมายก็พร้อมแล้วที่เหลือคือต้องร่วมกันรณรงค์อย่างจริงจัง”นายธนวรรธน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น