ศรีวราห์สั่งจับตาโจ ชัว หว่องคอนเฟอร์เร้นท์ที่จุฬาฯ

กรุงเทพฯ 6 ต.ค.- รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุกรณี วีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ของนายโจ ชัว หว่อง สามารถทำได้ แต่สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเรื่องความมั่นคงหากเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีทันที


พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการจัดกิจกรรมปาฐกถาในงาน 6 ตุลา ประชาธิปไตยกับคนรุ่นใหม่ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในช่วงบ่ายวันนี้  ซึ่งจะมีการวีดีโอคอนเฟอเรนท์ นายโจชัว หว่อง นักศึกษาแกนนำประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ที่ฮ่องกง ต่อรัฐบาลจีน เข้ามาภายในงานดังกล่าว จึงไม่สามารถห้ามจัดกิจกรรมดังกล่าวได้ เพราะถือสิทธิ์และยังไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่หากพบว่ามีการกระทำผิดหรือเข้าข่ายกระทบเป็นภัยต่อความมั่นคง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศไทย ซึ่งได้สั่งการให้สันติบาลและตำรวจท้องที่เฝ้าระวังไว้แล้ว ส่วนการผลักดันนายโจชัว หว่อง ออกนอกประเทศวานนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการทำตามคำสั่งของรัฐบาลจีน แต่เป็นการใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พิจารณา เนื่องจากมีข้อมูลว่า นายโจชัวหว่อง เป็นบุคคลที่ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ และเป็นภัยต่อความมั่นคง จึงพิจารณาผลักดันออกนอกประเทศ

ส่วนการที่นายโจชัวหว่อง เปลี่ยนชื่อ เพื่อเดินทางออกนอกประเทศเข้ามาที่ไทย เป็นเรื่องที่ประเทศต้นทางจะต้องพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย  สำหรับกรณีกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความเห็นต่างกับมาตรการของรัฐบาลไทย เมื่อวานนี้ ได้สั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ หากพบว่าเข้าข่ายความผิดก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย   ส่วนวันนี้ที่จะมีกลุ่มนักศึกษาจัดสัมมนาในหัวข้อเหตุการณ์ 6 ตุลา ตามสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศ ยืนยันว่าสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ใช่การปลุกระดมหรือสร้างความแตกแยก ไม่ได้สั่งการใดเป็นพิเศษเว้นให้ตำรวจท้องที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลความปลอดภัยเท่านั้น


รองผบ.ตร.ระบุยังไม่พบคนนอกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ร่วมก่อเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน เชื่อมีผู้บงการเบื้องหลัง

พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าคดีระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม ขณะที่ในตอนนี้มีผู้ถูกออกหมายจับแล้วทั้งหมด 9 คน จับได้แล้ว 1 คนถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด ซึ่งยังหลบหนีอยู่ในประเทศ และยังไม่พบว่ามีกลุ่มบุคคลนอกพื้นที่อยู่ในขบวนการด้วย

ส่วนกรณีการประสานงานให้ คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน หรือป.ป.ง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา ขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปยังป.ป.ง.แล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของป.ป.ง. ทั้งนี้ เชื่อว่าการก่อเหตุมีผู้อยู่เบื่องหลัง ขณะที่การข่าวในช่วงเดือนตุลาคมยังไม่พบความเคลื่อนไหวในการก่อเหตุ


ศรีวราห์ ยัน จับคนไทยค้ากามต่างประเทศไม่กระทบจัดอันดับการค้ามนุษย์ ชี้ เป็นเหตุเกิดขึ้นต่างประเทศ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานกรณี ทางการอเมริกาจับกุมคนไทย12คน และชาวอเมริกัน5 คน รวม 17 คน  ในข้อหาค้ามนุษย์ ซึ่งอยู่ระหว่างให้กองการต่างประเทศและตำรวจสันติบาล ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ขบวนการดังกล่าวมีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับคนไทยที่อยู่ภายในประเทศอีกหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการจับกุมของเจ้าหน้าที่อเมริกันครั้งนี้ ไม่กระทบกับการจัดอันดับความน่าเชื่อเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ของไทย เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นในต่างประเทศเช่นเดียวกับคดีอื่นๆที่ไทยสามารถจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติได้เช่นกัน

ขณะที่ ตำรวจ ปคม.ได้รับการติดต่ออย่างไม่เป็นทางการในเรื่องนี้แล้ว ขณะนี้ได้เริ่มจัดตั้งชุดตรวจสอบข้อมูลประวัติและคดีย้อนหลังของผู้ที่ถูกจับกุมตัวได้ เช่น นางสุมาลี อินทรทอง อายุ 55 ปี ที่เป็นหัวหน้าเครือข่ายเดียวกัน แต่ถูกจับกุมได้ที่ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องตรวจสอบดูว่าเคยมีประวัติก่อคดีใดในประเทศไทยมาก่อนหรือไม่ ระหว่างรอการประสานคดีนี้อย่างเป็นทางการจากสหรัฐอเมริกาว่า ต้องการให้ทางการไทยตรวจสอบหรือดำเนินการในส่วนใดบ้าง โดยกระบวนการทั้งหมดจะต้องดำเนินการผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนหากผลการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายใดมีการกระทำผิดเกิดขึ้นในไทยก่อนไปสหรัฐอเมริกา ก็จะต้องมีการประสานให้สหรัฐอมเริกาดำเนินคดีเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคดีดังกล่าว เป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย จึงต้องให้ทางการสหรัฐอเมริกาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้แล้วเสร็จก่อน จากนั้นจึงจะเป็นขั้นตอนพิจารณาว่าจะขอให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน นำกลับมารับโทษในไทยต่อไปหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดต้องพิจารณาจากรายละเอียดจากทางการสหรัฐอเมริกาที่จะประสานงานอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”