ทำเนียบฯ 6ต.ค.-โฆษกรัฐบาล นำทีมแถลงชี้แจงค่าใช้จ่าย “พล.อ.ประวิตร” นำทีมงานประชุมที่ฮาวาย ยันโปร่งใสตรวจสอบได้ ใช้มาตรฐานเดียวกันทุกรัฐบาล ขณะที่ผู้บริหารการบินไทย ยันเอกสารรายชื่อไม่ตรงกับความเป็นจริง หากพบปล่อยทางสายการบิน เตรียมเอาผิดทางวินัย
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ร่วมกันแถลงข่าว โดย พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ขอชี้แจงว่าการเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าปฏิบัติภารกิจนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ยึดถือหลักเกณฑ์ตามระเบียบสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง แต่เช่าเหมาลำ 2 ครั้ง คือ ประเทศอิตาลีและรัสเซีย ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เช่าเหมาลำมีเพียงครั้งเดียวคือไปมณรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่าเอกสารรายชื่อบุคคลที่จะเตรียมเดินทางที่เผยแพร่อยู่ในขณะนี้ เป็นเอกสารเท็จ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ไม่อยากให้คนไทยตั้งประเด็นเรื่องตัวเลข อยากให้ดูที่มาที่ไปของตัวเลขที่มีปัจจัยของการคำนวณราคาหลายอย่าง ทั้งค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าเชื้อเพลิง รวมทั้งการอำนวยความสะดวกของภาคสนาม ยืนยันว่าสิ่งที่เราทำโปร่งใส พร้อมให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ได้มอบเอกสารให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และต้องขอความเป็นธรรมจากกรณีการเปรียบเทียบตัวเลขการเดินทางโดยเช่าเครื่องเหมาลำของรัฐบาลปัจจุบันกับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยใช้ตัวเลขราคากลางของรัฐบาลปัจจุบันไปเปรียบเทียบกับราคาสุทธิของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งราคากลางจะสูงกว่าราคาสุทธิ จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนอาจเข้าใจคาดเคลื่อนได้ว่ารัฐบาลใช้งบประมาณการเดินทางที่สูงกว่า ยืนยันว่าใช้ระเบียบเหมือนกับทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่เคยมาสร้างกฎในรัฐบาลชุดนี้ นอกจากนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองหรือไม่ เพราะมีความพยายามของคนบางกลุ่มในเรื่องนี้
“นายกฯ ไม่สบายใจว่าตัวเองจะเสียหายหรือไม่เสียหาย แต่คำนึงว่าเจตนารมณ์คือการป้องกันปราบปรามการทุจริต เราเองต้องทำตัวให้โปร่งใส เป็นตัวอย่างกับคนอื่น นายกฯ ก็ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระทำแบบนี้มาตลอด” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ด้านนายจรัมพร กล่าวว่า การบินไทยมีกระบวนการเสนอบริการอย่างเป็นระบบ มีมาตรฐานเหมือนกันทุกรัฐบาล ไม่มีสิทธิพิเศษ ซึ่งตัวเลขสามารถตรวจสอบได้โดยราคาสุทธิจะทราบภายในอีก 2 เดือนนี้ และไม่ใช่เป็นการประวิงเวลา แต่เป็นระยะเวลาที่จะต้องรอการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากทางฮาวาย ส่วนเรื่องเอกสารรายชื่อผู้โดยสารที่มีการเผยแพร่ทางโซเซียลอยู่นั้น ยืนยันว่าเป็นเอกสารที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันหากพบว่าต้นทางมาจากสายการบิน ก็จะต้องดำเนินการเอาผิดตามระเบียบวินัยต่อไป ส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยเอกสารรายชื่อของจริงได้นั้น เนื่องจากผู้โดยสารจะมีเอกสิทธิที่ได้รับความคุ้มครองจากสายการบิน
ขณะที่ พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า กรณีที่มีรายชื่อ น.ส.ชลรัศมี งาทวีสุข ผู้ประกาศข่าวช่อง 5 ร่วมคณะไปด้วยนั้น ยืนยันว่าเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้เดินทางไปด้วย
เมื่อถามว่ากรณีที่มีเอกสารเผยแพร่รายชื่อบุคคลที่เตรียมจะเดินทางไปด้วย และหนึ่งในนั้นมีรายชื่อ น.ส.ชลรัศมี ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า น.ส.ชลรัศมีเป็นผู้สื่อข่าวที่มีส่วนเกี่ยวกับการนำเสนอเรื่องการค้ามนุษย์และปัญหาการบินพลเรือน จึงมีส่วนเกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับถึงการเดินทางของบุคคลในรัฐบาลหลังจากนี้หรือไม่ พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะการเดินทางที่ผ่านมาทำตามระเบียบและขั้นตอนทุกอย่าง แต่ให้ถือกรณีนี้เป็นบทเรียนที่จะทำให้เกิดความระมัดระวัง เพราะอาจส่งผลต่อความไว้วางใจที่ประชาชนได้ฝากความหวังไว้กับรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย
