รัฐสภา 12ก.พ.-กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ สนช.เตรียมชงแก้กม.เพิ่มโทษคนล่าสัตว์สงวนจำคุก 20 ปี พร้อมเสนอออกระเบียบแก้วัฒนธรรมองค์กรผิด ๆ เอื้อผู้มีอิทธิพลรุกป่า
พล.ท.ชัยยุทธ พร้อมสุข ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พร้อมกรรมาธิการฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่า กมธ.ขอแสดงความกังวลและห่วงใยกรณีมีกลุ่มบุคคลพร้อมอาวุธเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกและสังหารสัตว์อนุรักษ์ ซึ่งเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535 และขอชื่นชมข้าราชการ ภาคเอกชน และประชาชนที่ร่วมกันแสดงถึงความรักความห่วงใยสิ่งแวดล้อมที่กำลังถูกทำลายทั้งป่าไม้และสัตว์ป่าที่กำลังจะสูญพันธุ์ พร้อมสนับสนุนให้ปกป้องข้าราชการที่ดีและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ สุจริต และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ข้าราชการอื่น ๆ
“กรรมาธิการฯ ยอมรับว่าจากที่ได้ศึกษาเห็นว่าบทลงโทษที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่รุนแรงพอ และทราบว่าขณะนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังปรับปรุงกฎหมายและจะเสนอคณะรัฐมนตรี ซึ่งหากเสนอเข้ามายังสนช. ทางคณะกรรมาธิการฯ จะเสนอเป็นข้อสังเกตุให้เพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงขึ้น” พล.ท.ชัยยุทธ กล่าว
พล.ท.ชัยยุทธ กล่าวว่า วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้คณะกรรมาธิการจะเชิญผู้อำนวยการและหัวหน้าอุทยานเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มาพบเพื่อให้กำลังใจ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาแก้ไขกฎหมายร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าปี 2535 ที่กำลังที่จะเสนอเข้าสู่สนช.
ด้านนายสนิท อักษรแก้ว กรรมาธิการฯ กล่าวว่า ควรต้องแยกประเภทบทลงโทษสำหรับสัตว์สงวนและสัตว์อนุรักษ์ โดยต้องเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นถึงขั้นจำคุก 10-20 ปี และปรับ เชื่อว่าจะทำให้ผู้มีอิทธิพลเกรงกลัว ขณะเดียวกันหน่วยงานภาครัฐเองต้องออกกฎระเบียบเพื่อป้องกันวัฒนธรรมองค์กรในการใช้อำนาจเปิดทางให้ผู้มีอิทธิพลเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าและล่าสัตว์ โดยควรต้องมีมาตรการเข้มข้น ซึ่งคณะกรรมาธิการฯให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพื่อให้ค่านิยมที่ผิด ๆ เหล่านี้หมดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวพล.ร.อ.วีรพันธุ์ สุขก้อน หนึ่งในกรรมาธิการสวมเสื้อมีคนนำมามอบให้ ซึ่งเขียนข้อความว่า “ใครฆ่าเสือดำ” เพื่อให้เกิดการต่อต้านและป้องกันบุคคลใดกระทำการเช่นนี้อีก.-สำนักข่าวไทย
