กรุงเทพฯ 11 ก.พ.- “สมชัย” เผย สนช.เริ่มคล้อยตาม กกต.-กรธ. ประเด็นไม่ควรจัดมหรสพหาเสียง หลังพบผลเสียมากกว่าผลดี จับตา ร่างกฎหมาย ส.ว. หลัง สนช.-กรธ. เห็นต่างกัน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.ได้ส่งความเห็นแย้งที่มีต่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสภมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 9 ก.พ.ผ่านมา หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ซึ่งจากการพิจารณาประเด็นที่เห็นตรงกันระหว่าง กกต. และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) คือ การไม่เห็นด้วยกับการให้มีมหรสพในช่วงหาเสียงการเลือกตั้ง ดังนั้นในขั้นตอนการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ประเด็นนี้น่าจะไม่มีปัญหาในเรื่องของการลงคะแนนเสียงและท่าทีของ สนช.ในช่วงหลังก็เริ่มมีแนวโน้มที่เห็นคล้อยตามข้อเสนอของ กรธ.และกกต. และในขั้นตอนการโหวตของที่ประชุม สนช. ก็คิดว่าน่าจะโหวตในทิศทางเดียวกัน คือ ไม่ให้มีการจัดมหรสพช่วงหาเสียงการเลือกตั้ง เพราะทุกคนน่าจะพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี ส่วนประเด็นอื่นๆ นายสมชัย เห็นว่า คงต้องรอดูว่า ท่าทีของกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย จะเห็นเป็นอย่างไร ซึ่งข้อเสนอของ กกต. ไม่ได้มุ่งหวังว่าจะได้รับการตอบสนองจากสองฝ่าย ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของที่ประชุม
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ทาง กรธ.มีความเห็นตรงกันข้ามเป็นหนังคนละม้วนกับทาง สนช. ในประเด็นการจำแนกประเภทผู้สมัครอิสระกับนิติบุคคล การลดจำนวนกลุ่มอาชีพ และการวิธีการเลือกไขว้มาเป็นการเลือกตรง เบื้องต้นก็คงต้องรอดูว่ากรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย จะพิจารณาอย่างไร ทาง กกต.คงต้องมากำหนดและทบทวนท่าทีว่าจะยืนตามความเห็นเดิมที่ไม่มีการปรับแก้ไขหรือไม่อย่างไร
“หนึ่งเสียงของประธาน กกต. จะมีความหมายมาก หากฝ่าย กรธ.และสนช.ต่างยืนยันความเห็นของฝ่ายตัวเอง เพราะถ้าประธาน กกต.โหวตไปในทางใด ฝ่ายนั้นก็จะชนะ ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าถ้าฝ่าย กรธ.ชนะ จะมีความสุ่มเสี่ยงสูงมากที่จะไปแพ้โหวตในที่ประชุม สนช. เพราะจะทำให้ร่างกฎหมายทั้งฉบับตกไป ต้องเข้าสู่กระบวนการยกร่างใหม่ ซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ถือเป็นสิ่งที่ตนเองค่อนข้างกังวล”นายสมชัย กล่าว .- สำนักข่าวไทย