จันทบุรี 6 ก.พ. – ครม.อนุมัติแผนจัดการน้ำเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เชื่ออีก 10 ปี ต้องใช้น้ำถึง 800 ล้านลูกบาศก์เมตร
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนั้ (6 ก.พ.) ว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนจัดการเรื่องน้ำในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) คาดว่าจะต้องมีแรงงานเกิดขึ้นในพื้นที่ประมาณ 3 ล้านคน ดังนั้น จะมีความต้องการใช้น้ำทั้งอุปโภค บริโภค ภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม
“ปัจจุบันพบว่า สามารถจัดหาน้ำได้ 427 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังเพียงพออยู่ เพราะมีความต้องการใช้จริงอยู่ที่ 32 ล้านลูกมาศก์เมตร แต่เชื่อว่า อีก 10 ปี คือ ในปี 2570 มีความจำเป็นต้องใช้น้ำประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์เมตร และในปี 2579 น่าจะใช้น้ำถึง 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า จึงมีการกำหนดแผนว่า ต้องปรับปรุงแหล่งน้ำเดิมที่อยู่ในเขตพื้นที่ 6 แห่ง หากปรับปรุงแล้วสามารถเพิ่มน้ำได้อีก 75 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะจัดทำอ่างเก็บน้ำใหม่ 3แห่ง เมื่อทำแล้วจะสามารถเก็บน้ำได้ปริมาณเพิ่ม 308 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมทั้งเชื่อมโยงแหล่งน้ำด้วยการขุดคลองระบายน้ำให้น้ำพร่องถึงกัน และผลันน้ำในระยะเวลา 5 ปี น่าจะเพิ่มต้นทุนน้ำได้อีก 20 ล้าลูกบาศก์เมตร เชื่อว่า น่าจะเพียงพอสำหรับ 800 ล้านลูกบาศก์เมตรใน 10 ปีข้างหน้า
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเตรียมความพร้อม จัดทำแผนปฎิบัติการของตัวเอง ที่จะรองรับแผนใหญ่ และทบทวนแผนที่เสนอมาว่า สามารถเพิ่มเต้นทุนน้ำได้จริง ตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดจากแผนเดิมที่มีอยู่ .- สำนักข่าวไทย