กกต.เห็นแย้ง 6 ประเด็นร่างกฎหมายเลือกตั้ง

สำนักงาน กกต. 6 ก.พ.- กกต.มีมติแย้งร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. 5 ประเด็น ร่างกฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว. 1 ประเด็น  ส่ง สนช.ศุกร์นี้  ตั้งกมธ.ร่วมสามฝ่าย 


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการประชุมกกต.ว่า ที่ประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ที่ผ่านความเห็นชอบจาก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว และมีมติ ทำความเห็นแย้งร่างกฎหมายทั้งสองฉบับ  ในส่วนของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.จะทำความเห็นแย้ง 5 ประเด็น  ส่วนร่างพ.ร.ป.การได้มาซึ่งสว. 1 ประเด็น 

นายสมชัย กล่าวว่า  ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง  ส.ส. ประกอบด้วย 1 เรื่องที่ให้ผู้สมัครพรรคการเมืองมีหมายเลขแตกต่างกันไปตามเขตเลือกตั้ง  ซึ่ง  กกต.เห็นว่าขัดกับมาตรา 224 (2) ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้  กกต.มีบทบาทในการควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม  เพราะการมีหมายเลขแตกต่างกันในแต่ละเขต ของแต่ละพรรคจะทำให้กระบวนการจัดเตรียมพิมพ์บัตรต้องกระจายออกไปในพื้นที่ต่าง ๆ มากขึ้น   จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดบัตรปลอมมากขึ้น   แทนที่จะพิมพ์ในส่วนกลางที่สามารถควบคุมบัตรเลือกตั้งให้ปลอดภัย ไม่สามารถปลอมแปลงบัตรได้ ทำให้ยากจะจัดการเลือกตั้งให้เกิดการสุจริต เที่ยงธรรมได้


2 ประเด็นมหรสพที่กำหนดให้การหาเสียงของผู้สมัครสามารถจัดมหรสพได้ จะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม  เพราะการคำนวณค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้จะทำให้เกิดความได้เปรียบ เสียเปรียบระหว่างพรรคใหญ่และพรรคเล็ก ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 224 (2)  

3 มาตรา 62 วรรค 2 กรณีที่กำหนดค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองเท่ากัน   ตามหลักเกณฑ์ที่กรรมการการเลือกตั้งกำหนด  นำไปสู่หลักปฏิบัติว่าค่าใช้จ่าย ส.ส.เขตก้อนหนึ่ง  ซึ่งในอดีตกำหนดค่าใช้จ่ายคนละ 1.5 ล้านบาท ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อเดิมจะคำนวณจากจำนวนที่ส่ง   ถ้าส่งน้อยก็จะมีค่าใช้จ่ายน้อยลง แต่ในร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ค่าใช้จ่ายเท่ากัน ซึ่งจะเป็นการตกลงร่วมกันระหว่าง กกต.กับพรรคการเมือง  สิ่งที่ กกต.กังวลในทางปฏิบัติคือการประชุมร่วมระหว่าง กกต.กับพรรคการเมือง ซึ่งจะมีพรรคเล็กมากกว่าพรรคใหญ่ และพรรคเล็กโหวตชนะพรรคใหญ่  กำหนดให้ค่าใช้จ่ายกลางไม่เกินล้านบาท แต่พรรคเล็กส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตเพียงคนเดียวก็สามารถใช้เงิน 1 ล้านบาทบวก 1.5 ล้านบาททุ่มหาเสียงในเขตนั้น   แต่ถ้าเป็นพรรคใหญ่ส่งผู้สมัคร 350 เขต ก็จะมีงบกลางที่ใช้หาเสียงคนละ 2,857 บาท การเขียนกฎหมายแบบให้เท่ากัน  แต่ไม่เที่ยงธรรมเมื่อถูกนำไปปฏิบัติ

4 มาตรา 133 เรื่องขอบเขตอำนาจศาลให้ใบเหลืองหลังประกาศผลเลือกตั้งได้ เป็นการเขียนเกินขอบเขตของกฎหมาย เพราะในรัฐธรรมนูญกำหนดให้ใบแดงกับใบดำเท่านั้น  ขัดกับสาระของรัฐธรรมนูญเท่ากับขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ


5 มาตรา 138 ภายหลังประกาศผลเลือกตั้ง  ให้มีการเลือกตั้งใหม่และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งด้วย หรือที่เรียกว่าใบดำ  ซึ่งในรัฐธรรมนูญกำหนดให้ได้ทั้งใบดำและใบแดง   แต่ในกฎหมายเขียนให้ใบดำเพียงอย่างเดียว   จึงถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ

นายสมชัย กล่าวว่า ส่วนร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ในส่วนของประเด็นเรื่องการแยกประเภท แบ่งกลุ่ม การเปลี่ยนจากการเลือกไขว้มาเป็นเลือกแบบกลุ่มนั้น กกต.ไม่เห็นแย้ง  แต่เห็นแย้งในเรื่องที่ให้อำนาจศาลให้ใบดำเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นการเขียนให้สอดรับกับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการะลือกตั้ง ส.ส.  ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญศาลสามารถให้ได้ทั้งใบดำและใบแดง    โดยกกต.จะทำความเห็นแย้งกลับไปที่  สนช.ภายในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์นี้

“การทำความเห็นแย้งต้องเป็นเรื่องที่ทำให้กฎหมายดีขึ้น มีความสมบูรณ์ เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเลือกตั้งในอนาคต ไม่ได้สนใจว่าจะเข้าทางใคร หรือจะทำให้เกิดการยืดระยะเวลาออกไปมากหรือน้อยเพียงไร  แต่เอาสาระของกฎหมายเป็นที่ตั้ง พิจารณาโดยอิสระ  ปราศจากการล็อบบี้   ถึงมีล็อบบี้ก็ไม่สามารถโน้มน้าวจูงใจได้” นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย   กล่าวด้วยว่า แม้จะมีการทำความเห็นแย้งไปก็จะเสียเวลาไม่มากนัก คือจะเพิ่มขั้นตอนอีก 15-20 วันเท่านั้น  จากการตั้งกรรมาธิการสามฝ่ายพิจารณา 15 วัน ก่อนเข้า สนช.รวมระยะเวลาไม่เกิน 20 วัน  จึงไม่ส่งผลกระทบในเชิงของระยะเวลาที่จะเสียไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่