จับประธานบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ ล่าสัตว์ป่าในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

กาญจนบุรี 6 ก.พ.- เจ้าหน้าที่จับนักท่องเที่ยวเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จับกุมผู้ก่อเหตุได้ 4 คน และพบว่า 1 ในนั้น เป็นถึงผู้บริหารบริษัทใหญ่ระดับประเทศ


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลัง เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวไปตั้งแคมป์บริเวณลำห้วยปะชิ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก โดยสามารถจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทรับเหมาก่อสร้างเอกชนรายใหญ่ของประเทศ อายุ 63 ปี ชาวกรุงเทพฯ พร้อมนายยงค์ โดดเครือ, นางนที เรียมแสน และและนายธานี ทุมมาศ พร้อมของกลางปืนไรเฟิลติดกล้อง 1 กระบอก, ปืนลูกซองแฝด 1 กระบอก, กระสุนขนาด 30.06 จำนวน 7 นัด, กระสุนขนาด .22 หัวทองแดง 53 นัด, กระสุนขนาด .22 หัวตะกั่ว 61 นัด, กระสุนปืนลูกซองชนิดต่างๆ อีกประมาณ 20 นัด

นอกจากนี้ยังพบซากเสือดำถูกชำแหละ 1 ตัว หนัก 10.6 กิโลกรัม, หนังเสือดำที่ถูกชำแหละแล้ว 1 ผืน หนัก 2.6 กิโลกรัม, ซากไก่ฟ้าหลังเทา 1 ตัว หนัก 0.6 กิโลกรัม  ซึ่งสัตว์ป่าทั้ง 2 ชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง


สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายเปรมชัยพร้อมพวกได้ทำหนังสือขออนุญาตจากกรมอุทยานฯ เข้าไปเที่ยวป่า 2 วัน 1 คืน ใช้เส้นทางใหม่ ชื่อ “ทินวย – ทิคอง – มหาราช” ระยะทาง 30 กิโลเมตร แต่เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่พบคณะของนายเปรมชัยลอบตั้งแคมป์บริเวณห้วยปะชิ ซึ่งเป็นจุดหวงห้าม จึงเข้าตรวจสอบและพบอาวุธปืน  รวมถึงซากไก่ฟ้าหลังเทากับเนื้อเก้ง จึงคุมตัวทั้งหมดมาที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ โดยเดินทางถึงสำนักงานฯ ในเวลา 02.40 น.ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์


จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบจุดตั้งแคมป์เพิ่มเติม จึงพบซากเสือดำถูกชำแหละ รวมถึงเครื่องกระสุนจำนวนมาก  ซึ่งถูกซุกซ่อนไว้ใกล้จุดตั้งแคมป์ จึงส่งตัวทั้ง 4 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่า, นำเครื่องมือสำหรับใช้ล่าสัตว์ หรือ จับสัตว์เข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ, ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางถึง สภ.ทองผาภูมิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ขณะที่สื่อฯ กำลังจะเข้าไปทำข่าว ปรากฏว่าตำรวจได้แจ้งห้ามสื่อบันทึกภาพ เพื่อขอนำตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวน อีกทั้งยังห้ามไม่ให้สื่อฯ เข้าไปสังเกตการณ์ใดๆ 

ข้อมูลจากกรมอุทยานฯ ระบุว่า ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มีพื้นที่กว่า 2.3 ล้านไร่ เป็นแหล่งอาศัยและหากินของเสือกว่า  70 ตัว และสัตว์ใหญ่อย่างช้างอีก 300 ตัว มีสัตว์ป่านานาพันธุ์ ก่อนหน้านี้มีพบอัตราการล่าสัตว์ในพื้นที่ลดลงอย่างมาก เนื่องจากชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มข้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

เปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” จุดจบแก๊งทุจริตยา

ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช. บุกรวบแพทย์หญิง และเครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก พบข้อมูล ไปจ้างคนที่มีสิทธิเบิกราชการ หัวละ 1,000 เข้ามารับยา ก่อนเอาไปปล่อยต่อเม็ดละ 20 บาท โกยเงินเข้ากระเป๋า 60 ล้าน ทำมาแล้ว 8 ปี

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]