รับรองพฤติกรรม ‘หมอแสง’ เข้าข่ายเป็น หมอพื้นบ้าน

สธ.5 ก.พ.–กรมแพทย์แผนไทยฯ เผยพฤติกรรม ‘หมอแสง’ เข้าข่ายเป็นหมอพื้นบ้านวางกรอบรับรอง แต่ติดเอกสารไม่ครบ เหลือ 2รายการ พร้อมให้ความรู้ในการรักษามะเร็งทุกโรคไม่มีการใช้ยาตัวเดียวกันหมด ส่วนหลักฐานที่นายแสงชัยยื่น อ้างมีความรู้รักษา ยาสั่ง และฝีในตับ 


นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึง กรณีการรับรองหมอแสง เป็นหมอพื้นบ้านว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณารับรอง  แสงชัย แหเลิศตระกูล เป็นหมอพื้นบ้าน ซึ่งเป็นการรับรองตามพฤติกรรมของนายแสงชัยที่เข้าหลักเกณฑ์การเป็นหมอพื้นบ้าน ทั้ง 8 ข้อ ประกอบด้วย 


1. มีผู้รับมารับบริการสม่ำเสมอ และต่อเนื่องเป็นระยะไม่น้อยกว่า 10 ปี  2. สืบทอดความรู้จากบรรพบุรุษ หรือ องค์ความรู้จากท้องถิ่น 

3. มีความสามารถในการบำบัดรักษาโรค 

4. ไม่หวงวิชา 


5. มีการถ่ายทอดความรู้ 

6. ไม่เรียกร้องค่ารักษาเกินควร 

7. เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากคนในชุมชน  

และ8. มีคุณธรรม   ซึ่งขณะนี้เหลือเอกสารเพิ่มเติม อีก 2 รายการ ได้แก่ ใบรับรองจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการรับรองจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต ,รับรองจากประชาชนในชุมชนที่มารับบริการ 10 คน    

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ส่วนการรับรองคุณภาพมาตรฐานหรือ สรรพคุณของยาสมุนไพรที่นายแสงชัยแจกนั้น เป็นคนละส่วนกัน ต้องรอการศึกษาวิจัยร่วมกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ที่จะทราบผลในวันที่ 31 มี.ค.นี้ โดยในส่วนของสูตรยาที่นายแสงชัยใช้และอ้างถึง มีทั้งข้าวเย็นเหนือ,ข้าวเย็นใต้ ,น้ำมันรำข้าว และเห็ดกระถินพิมาน  จัดเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน แต่ว่าสูตรยารักษามะเร็งก็มีความแตกต่างกันไป ในแต่ละสูตร ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าตัวไหน ฆ่าเซลล์มะเร็ง เฉพาะ ทั้งจากการเก็บข้อมูลของกรมการแพทย์แผนไทยฯจากตัวอย่างผู้มารับยาหมอแสงจำนวน 1,200 คน ขณะนี้ครบแล้วทั้งหมด โดยเบื้องต้นจำนวน 600 คน เป็นการสำรวจความรู้สึกในการใช้ยา แต่ไม่สามารถอ้างอิงสรรพคุณหรือประสิทธิภาพของยาได้ โดยยาทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ใน 3 ด้าน 1.กินได้ 2. นอนหลับ และ3.มีแรง  

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า ส่วนหลังจากที่นายแสงชัย ได้รับการรับรองเป็นหมอพื้นบ้านต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ 4 ข้อ ของระเบียบกรมแพทย์แผนไทยฯ ได้แก่ 1.การรักษาต้องทำโดยเฉพาะตน 2.ต้องปฏิบัติตามกรอบธรรมจรรยา มิรับประโยชน์ตอบแทน  3. ต้องปฏิบัติตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานรัฐ  และ4.ปฏิบัติงานในสถานพยาบาล  หากผิดหลักเกณฑ์เหล่านี้ สามารถยึดใบรับรองได้  ขณะเดียวจากการตรวจสอบข้อมูลที่นายแสงชัย มาของขึ้นทะเบียน ระบุคุณสมบัติในการรักษาโรค  ได้แก่ ยาสั่ง และฝีในตับ เป็นต้น

ด้าน นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การตรวจสอบสรรพคุณทางยา ต้องดูว่า ยาสมุนไพรของหมอแสง เข้าเกณฑ์ เป็นยารักษา โรค มะเร็ง มีสรรพคุณฆ่า เซลล์มะเร็ง  หรือ เป็นยาบำรุง เข้าข่ายอาหารเสริม เพราะการรักษาโรคมะเร็ง ไม่สามารถใช้ยาตัวเดียวกันได้ทุกชนิด ทุกโรคมีการรักษาแตกต่างกัน ไม่มีเหมือนกันหมด  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง