อสมท 1 ก.พ.61- ฟุตบอลไทยลีกระหว่างแบงค็อก ยูไนเต็ด กับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สัปดาห์แรกของฤดูกาลกำลังจะนำเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า VAR เข้ามาช่วยตัดสินการแข่งขัน ไปรู้จักกับเครื่องมือนี้กันจากรายงาน
เกมฟุตบอลออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปียนส์คัพ 2018 ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่จบลง ถือเป็นฟุตบอลนัดประวัติศาสตร์ เนื่องจากว่าเป็นนัดแรกที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ นำเอาเทคโนโลยี VAR หรือมาใช้งาน โดยเป็นการทดสอบระบบเสมือนจริง
เทคโนโลยี VAR ที่มีชื่อเต็มว่า Video Assistant Referee คือการใช้ภาพวิดีโอเพื่อช่วยกรรมการในสนามตัดสินเกมได้อย่างแม่นยำ โดยจะมีผู้ตัดสิน 2 คนอยู่ในห้องช่วยกันดูภาพช้า และทำงานร่วมกับผู้ตัดสินในสนาม ทำให้ผู้ตัดสินในสนามเหมือนมีผู้ช่วยซึ่งเป็นเป็นภาพซ้ำ หรือ ภาพช้า เพื่อไม่ให้ตัดสินผิดพลาด แต่สโมสรไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้ผู้ตัดสินใช้ VAR ผู้ที่จะมีสิทธิ์ขอดูวิดีโอก็คือ ผู้ตัดสินที่ 1 และเจ้าหน้าที่ VAR ในห้องควบคุมเท่านั้น
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ได้นำมาทดลองใช้แล้วในศึกฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่น คัพ 2017 และเตรียมใช้อย่างเป็นทางการในฟุตบอลโลก 2018 ด้วย
ส่วนฟุตบอลลีกใหญ่ที่นำมาใช้ก็มีทั้งบุนเดสลีกา เยอรมนี และกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ที่เริ่มใช้ในฤดูกาลนี้
กรณีที่จะใช้ VAR มีเพียง 4 กรณีเท่านั้น
1.ลูกที่ได้ประตู มีการล้ำหน้าหรือไม่ มีการเกิดฟาวล์ขึ้นก่อนหรือไม่
2.จังหวะเหตุการณ์ในเขตโทษ ฟาวล์ในเขต หรือนอกเขต ฟาวล์หรือไม่ แฮนด์บอลหรือไม่
3.จังหวะการให้ใบแดงโดยตรง
4.ให้ใบเหลือง / ใบแดง ผิดคน
เทคโนโลยีดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้ทันทีในฟุตบอลออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปียนส์ คัพ ช่วงนาทีที่ 88 จากจังหวะที่ ดิโอโก้ หลุยซ์ ซานโต้ ไปศอกใส่ ปิยพล ผานิชกุล ก่อนที่สุด ศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสินใช้ VAR และชูใบแดงไล่กองหน้าชาวบราซิเลียนออกจากสนาม
พล.ต.อ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงการใช้ครั้งแรกว่า ประสบผลสำเร็จ ทำให้การตัดสินในวันนี้ เป็นการตัดสินที่ยุติธรรม
โดยมีการยืนยันมาแล้วในฤดูกาลนี้ นัดแรกที่จะทำ VAR มาใช้ในไทยลีกคือเกมบิ๊กแมตช์ระหว่างแบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับเอสซีจีเมืองทอง ยูไนเต็ด ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้การตัดสินแม่นยำ และถูกต้องที่สุด.-สำนักข่าวไทย