ทอท.ดึงพันธมิตรเสริมศักยภาพขนส่งทางอากาศ

รร.คอนราด  30 ม.ค. – ทอท.ดึงสายการบินทั่วโลกร่วมเสริมศักยภาพขนส่งทางอากาศ รองรับความต้องการที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2560 สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดว่ามูลค่าการขนส่งสินค้าทางอากาศปี 2561 จะเติบโตประมาณร้อยละ  4 และปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4.5 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทอท.ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทยมีสินค้าและไปรษณียภัณฑ์เข้า – ออก ท่าอากาศยาน 6 แห่งเมื่อปีงบประมาณ 2560 รวมทั้งสิ้น 1.57 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.89 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานที่เป็นประตูการค้าหลักด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศของประเทศมีสินค้าและไปรษณียภัณฑ์เข้า – ออก 1.42 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึงร้อยละ 12.45 ดังนั้น ทอท.เล็งเห็นว่าความต้องการด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ ทอท.จึงร่วมกับบริษัท Euroavia International ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการจัดงานการประชุมต่าง ๆ ระดับโลก การให้คำปรึกษาและพร้อมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ จัดการประชุม Asia Air Cargo Summit 2018 ระหว่างวันที่ 29 – 31 มกราคม เพื่อเป็นเวทีสำหรับผู้แทนจากท่าอากาศยานและสายการบินทั่วโลกกว่า 160 คนได้เข้าร่วมประชุม รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการให้บริการกิจการการขนส่งสินค้าทางอากาศ

นายนิตินัย กล่าวว่า ทอท.มีแนวคิดที่จะผลักดันและส่งเสริมให้เกิดศูนย์การกระจายสินค้าสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าทางโลจิสติกส์สูง อาทิ ศูนย์กลางการกระจายสินค้าการเกษตร ศูนย์คัดกรองคุณภาพสินค้า ศูนย์กลางการกระจายสินค้ากลุ่มยาและเวชภัณฑ์ โดยให้ตั้งรวมกันอยู่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น Logistic park หรือศูนย์กลางการขนส่งสินค้าของประเทศและภูมิภาค นอกจากนี้ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ส่งผลให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับสิทธิพิเศษในการงดเว้นใบอนุญาตตามกฎหมายควบคุมสินค้าผ่านแดนของแต่ละกระทรวง นอกเหนือจากกฎหมายของกรมศุลกากรตามมาตรา 152 ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศสามารถดำเนินกิจกรรมด้านโลจิสติกส์มากขึ้น และยังสามารถนำสินค้าที่ไม่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงเข้ามาพักที่เขตปลอดอากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ได้ 

ปัจจุบันปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้น ทำให้สุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานอันดับที่ 21 จาก 30 อันดับที่มีการขนส่งสินค้าทางอากาศมากที่สุดของโลก หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.45 ของอัตราการเติบโตด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ และมีขีดความสามารถในการรองรับปริมาณสินค้าและไปรษณียภัณฑ์เข้า – ออกได้ 1.7 ล้านตันต่อปี และยังสามารถขยายขีดความสามารถในการรองรับสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ได้ถึง 3 ล้านตันต่อปี.-สำนักข่าวไทย