ผอ.ศูนย์บริการโลหิตฯ เผย ฝนตก รถติด ทำวิกฤตเลือดขาด โดยเฉพาะกรุ๊ปโอ

สำนักข่าวไทย 8 ต.ค-ผอ.ศูนย์บริการโลหิต เผย ฝนตก รถติดทำเลือดขาด  โดยเฉพาะหมู่เลือดกรุ๊ปโอ ขาดแคลนหนัก เชิญชวนร่วมบริจาคสำรองเลือดคงคลัง พร้อมเผยสิ้นเดือนตุลาคม เตรียมหารือผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ วางเกณฑ์รับบริจาคเลือดป้องกันซิกา  หลังจากขณะนี้ใช้คัดกรองโดยเจ้าหน้าที่ ถ้ากลับมาจากพื้นที่เสี่ยงงดบริจาคเลือด28 วัน หากมีเพศสัมพันธ์งดบริจาคเลือดนาน 6 เดือน


พญ.อุบลวัณณ์ จรูญเรืองฤทธิ์  ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์โลหิต ว่า ขณะนี้ สถานการณ์เลือดคงคลังมีน้อย คงเหลือแค่วันละ 1,400 ยูนิต ที่ขาดมากเป็นหมู่เลือดกรุ๊ปโอ โดยเลือดควรมีการสำรองและคงคลังอย่างน้อยวันละ 1,800-2,000 ยูนิตจึงจะเพียงพอ จึงได้มีการประกาศขอรับบริจาคเลือดเพิ่ม เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ โดยจำนวนเลือดที่ใช้ในปัจจุบันยังคงมีปริมาณเท่าเดิม แต่อาจด้วยสภาพอากาศฝนตกอย่างหนักในหลายพื้นที่ การจราจรที่ติดขัด ทำให้ผู้บริจาคไม่สะดวกเดินทางมาถึงศูนย์บริการโลหิตฯ ซึ่งบางวันที่มีฝนตกอย่างหนักทำให้เตียงบริจาคเลือดว่างมาก เลือดที่ได้น้อยไม่เพียงพอ จึงได้มีการเน้นการออกหน่วยรับบริจาคเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้ประสงค์บริจาค  ขณะเดียวกันในช่วงเทศกาลกินเจ ผู้บริจาคก็สามารถมาบริจาคเลือดได้ เป็นการได้บุญเพิ่ม

พญ.อุบลวัณณ์ กล่าวว่าสาเหตุที่หมู่เลือดกรุ๊ปโอ ขาดแคลน เพราะสัดส่วนของประชากรเป็นคนเลือดกรุ๊ปโอจำนวนมาก เมื่อมีคนป่วย บาดเจ็บ หรือคลอดบุตร คนหมู่เลือดนี้ ก็ต้องการเลือดตามหมู่เลือดมากเช่นกัน  ซึ่งจำนวนหมู่เลือดกรุ๊ปโอ ที่ต้องการต่อวันอยู่ที่ 900 ยูนิต ส่วนเรื่องของการตรวจคัดกรองเลือดป้องกันโรคซิกานั้น ขณะนี้ทางศูนย์บริการโลหิต ได้มีการออกเกณฑ์การบริจาคโลหิต เพื่อป้องกันโรค  โดยให้เจ้าหน้าทำการซักประวัติผู้บริจาค กำหนดหากเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ที่มีการระบาดของซิกา ขอให้งดการบริจาคเลือดเป็นเวลา 28 วัน  กรณีที่เป็นหญิงต้องการบริการเลือด หากมีเพศสัมพันธ์กับชาย ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงซิกา ขอให้งดการบริจาคเลือดไปอีก 6 เดือน เนื่องจากเชื้อซิกานี้มีอยู่ในน้ำอสุจิด้วย อย่างไรก็ตาม ทางสภากาชาดไทย เตรียมหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ โรงเรียนแพทย์ ที่ทำหน้าที่รับบริจาคเลือด และธนาคารเลือดทุกแห่ง เพื่อหารือถึงเกณฑ์การรับบริจาคโลหิต เพื่อป้องกันโรคซิกา โดยอ้างอิงจากข้อมูลในต่างประเทศร่วมด้วย คาดว่าจะมีการหารือในปลายเดือนตุลาคมนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ