กรุงเทพฯ 25 ม.ค.-สนช.อภิปรายสนับสนุนการขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อให้เกิดความพร้อมจากทุกฝ่าย แต่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิการสมัครเป็นข้าราชการสภา กรณีไม่ไปใช้สิทธิ
ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 แล้วในวันนี้ โดยมีทั้งหมด 178 มาตรา คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและปรับแก้ไป 30 มาตรา เพิ่ม 2 มาตรา ประเด็นหลักที่ถกกันยาวนานร่วม 3 ชั่วโมง คือการที่กรรมาธิการเสนอขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 90 วัน จากเดิมที่ให้มีผลวันถัดไปหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งอาจมีผลต่อการกำหนดวันเลือกตั้งในอนาคต
ทั้งนี้ กรรมาธิการเสียงข้างมากและกรรมาธิการเสียงข้างน้อยที่ให้ขยายเวลาออกไป 120 วัน ให้เหตุผลทำนองเดียวกันว่า เพื่อให้พรรคการเมืองและผู้เกี่ยวข้องได้ศึกษากฎหมายและมีเวลาเตรียมตัว ขณะที่ กรธ.ซึ่งเป็นผู้ร่าง ยืนยันให้มีผลในวันถัดไป ด้วยเหตุผลว่าได้มีการคำนวณเวลาเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เชื่อว่าจะทำทัน อีกทั้ง คสช.และรัฐบาลก็ไม่เคยส่งสัญญาณว่าจะต้องขยายเวลา ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนให้ขยายเวลา
สำหรับมาตรา 35 เป็นอีกประเด็นที่ถกกันมาก หลังกรรมาธิการฯ เพิ่มวรรค 4 ลงโทษคนที่ไม่ไปใช้สิทธิ ให้ถูกตัดสิทธิการสมัครเข้ารับราชการพนักงานหรือลูกจ้างของส่วนงานรัฐสภา และตัดสิทธิการได้รับแต่งตั้งเป็นข้าราชการบริหารฝ่ายรัฐสภา รวมถึงสิทธิในการเป็นข้าราชการการเมือง จากตามร่างเดิมให้ตัดสิทธิสมัคร ส.ส. สมาชิกสภาท้องถิ่น เข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. และสมัครเข้ารับเลือกเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้าน เท่านั้น แต่ประเด็นนี้สนช.หลายคนมองว่า เป็นการจำกัดสิทธิของประชาชน และเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ หาก สนช.เห็นด้วย ก็จะนำเรื่องนี้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแน่นอน
ส่วนเรื่องที่ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ต้องยื่นหลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาติดต่อกัน 3 ปี เว้นแต่ผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยัน พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่เสียภาษีนั้น มีบางส่วนไม่เห็นด้วย เพราะมีการเพิ่มข้อความให้เปิดเผยรายละเอียด โดยให้เหตุผลว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
นอกจากนี้ ประเด็นที่เปิดให้จัดมหรสพหาเสียงได้ ก็ถูกอภิปรายอย่างกว้างขวาง แม้กรรมาธิการฯ ยืนยันมโหรสพเป็นวิถีชีวิต และทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมและสนใจมาฟังนโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งดีกว่านโยบายประชานิยมด้วยซ้ำ อีกทั้งได้ป้องกันการทุจริต โดยคิดเป็นค่าใช้จ่าย แต่ สนช.ไม่วางใจและเห็นว่าในทางปฏิบัติควบคุมยาก
ร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ เนื่องจากมีกฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.รออยู่อีก 1 ฉบับ และจะครบกำหนดตามรัฐธรรมนูญที่ สนช.ต้องพิจารณาภายในวันพรุ่งนี้ และต้องจับตาดูว่าหากขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายออกไป กกต.จะบริหารอย่างไร เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมป ตามเงื่อนเวลาที่ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน ไม่เช่นนั้นโรดแมปการเลือกตั้งจะต้องขยับออกไปอีก 3 เดือน.-สำนักข่าวไทย