สำนักข่าวไทย 24 ม.ค.-รองผู้ว่าฯ กทม.กำชับทุกเขต ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ก่อสร้าง รถไฟฟ้า หลังพบค่ามลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐาน ด้านสำนักอนามัย กทม.ยังไม่พบรายงานผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มสูงขึ้น ในภาพรวมสภาพอากาศ กทม.ขณะนี้ ยังไม่น่าเป็นห่วง
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯ กทม.) กล่าวถึงกรณีผลตรวจวัดฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในวันนี้ (24ม.ค.) ว่า เบื้องต้นได้สั่งกำชับทุกสำนักงานเขตในพื้นที่ กทม.ลงพื้นที่ตรวจสอบตามสถานที่ก่อสร้างอาคาร รถไฟฟ้า ต้นกำเนิดที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง จนเกิดการสะสมกลายเป็นมลพิษทางอากาศ ซึ่งที่ผ่านมา กทม.มีหนังสือกำหนดข้อบังคับสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้าง เจ้าของอาคาร ที่ต้องปฏิบัติร่วมกันตั้งแต่ปี 2555 เช่น การก่อสร้างอาคารต้องมีการกั้นรั้วสูงอย่างน้อย 2เมตร มีอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละอองอย่างมิดชิด หากพบผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม กทม.สามารถสั่งระงับ การก่อสร้างได้ภายใน 30วัน ตามอำนาจ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
นายจักกพันธุ์ กล่าวอีกว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ คือ บริเวณตามแยกต่าง ๆ ที่มีการจราจรแออัด ซึ่ง กทม.มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ 46 จุด และรถโมบายเคลื่อนที่ 4 คัน กระจายตามจุดต่างๆ ที่มีการจราจรหนาแน่น โดยจัดสรรงบปีละกว่า 24ล้านบาท ในการสรรหาผู้รับจ้างดูแลระบบ ตรวจสอบรายงานข้อมูลอย่างใกล้ชิด ตลอดจนร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร ตรวจวัดค่าความดำ มีความผิดตามกฎหมาย
ด้าน นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบ รายงานผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มสูงขึ้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามผู้มีโรคประจำตัวควรหลีกเลี่ยงแหล่งที่มีมลพิษ สถานที่ที่แออัด การ จราจรที่หนาแน่น ควรอยู่ในที่โล่งที่มีสภาพอากาศปลอดโปร่ง แต่ภาพรวมในพื้นที่ กทม.สภาพอากาศขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง .-สำนักข่าวไทย