กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – ธนาคารออมสินสวนกระแสยืนยันปีนี้ไม่มีปิดสาขา เดินหน้าขยายสาขาและบริการเพิ่ม รองรับลูกค้ายุคดิจิทัล ตั้งเป้าเป็นธนาคารอันดับ 1
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ปีนี้ธนาคารไม่มีนโยบายปิดสาขาปัจจุบันมีทั้งหมด 1,080 สาขา และจะเปิดเพิ่มอีก 20 สาขา เป็น 1,100 สาขา เน้นขยายสาขาไปต่างจังหวัด และปรับรูปแบบสาขาให้ทันสมัย รวมทั้งควบรวมหรือย้ายบางสาขาไปพื้นที่ที่มีศักยภาพ ยอมรับว่ามีต้นทุนค่าจ้างพนักงานปีละ 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในบรรดาแบงก์รัฐ ขณะเดียวกันธนาคารออมสินก็มีฐานลูกค้าจำนวนมากมีรายได้ปีละ 60,000 ล้านบาท จึงเชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้โดยไม่จำเป็นต้องปิดสาขาแต่อย่างใด
สำหรับปี 2561 ตั้งเป้าเป็น The Best & Biggest Local Bank in Thailand ธนาคารดีที่สุดและใหญ่ที่สุด ภายใต้ภารกิจหลักส่งเสริมการออมพร้อมสร้างวินัยทางการเงินและเป็นแหล่งทุนสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก และเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันธนาคารปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี 80,000 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 2 ของเอสเอ็มอีทั้งระบบที่ 400,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2561 ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 83,000 ล้านบาท เงินฝาก 78,500 ล้านบาท หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ไม่เกินร้อยละ 2.4 และปี 2565 มีฐานลูกค้าเพิ่มร้อยละ 40 ของประชากรไทยที่มีอายุ 7 ปี ซึ่งเพิ่มจากปัจจุบันที่มีลูกค้า 20 ล้านคน หรือคิดเป็น 40 ล้านบัญชี
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2560 ธนาคารออมสินมีกำไรสุทธิหลังหักสำรองหนี้สงสัยจะสูญกว่า 31,212 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิกว่า 57,884 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการบริหารพอร์ตสินทรัพย์และหนี้สินให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดและการบริหารสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพ โดยมีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นสุทธิจากสิ้นปีก่อน 112,272 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 ทำให้เงินให้สินเชื่อสิ้นปี 2560 อยู่ที่ 2,014,123 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ของระบบธนาคารไทยและเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่มีสินเชื่อเกิน 2 ล้านล้านบาท ขณะที่มีรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ 5,701 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 921 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจบัตรและบริการอิเล็กทรอนิกส์ ค่านายหน้าและรับชำระค่าเบี้ยประกันภัย ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 มียอดเงินฝากรวม 2,256,312 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 1 ของระบบธนาคารไทย โดยเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2559จำนวน 97,176 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.5 ส่วนเอ็นพีแอล 41,203 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 2.05 ของสินเชื่อรวม ซึ่งต่ำกว่าเมื่อเทียบกับภาพรวมระบบสถาบันการเงิน ขณะที่ธนาคารฯ ยังสามารถนำส่งรายได้แผ่นดินในปีงบประมาณ 2560 ได้อีกถึง 13,118 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 4 ของรัฐวิสาหกิจ และเป็นอันดับ 1 ของสถาบันการเงินรัฐ.- สำนักข่าวไทย