กรุงเทพฯ 24 ม.ค.- ร้องกองปราบดำเนินคดีกับกลุ่มพระใน จ.นครราชสีมา อ้างประพฤติตนไม่เหมาะสมทั้งลักทรัพย์และฉ้อโกงเงินที่ชาวบ้านบริจาคสร้างอาคารปฎิบัติธรรมไปใช้ส่วนตัว
ผู้เสียหายเกือบ 10 คนเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนายอานนท์ มาตรโคกสูง หรืออดีตพระอานนท์ กับพวกรวม 5 คน ในข้อหาลักทรัพย์สำนักสงฆ์และฉ้อโกง จากกรณี เชิญชวนให้ประชาชนทำบุญทอดผ้าป่าวัดอรุณพัฒนา ในอำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรม แต่กลับนำเงินไปเข้าบัญชีส่วนตัว และไม่มีการสร้างอาคารดังกล่าว
นายศิริพงษ์ เลิศขวัญวรชัย ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า หลังทราบว่าไม่มีการสร้างอาคารตามที่กล่าวอ้าง แต่พระอานนท์กลับมีเงินซื้อรถให้กับบิดามารดาถึง 4 คัน ส่วนใบอนุโมทนาบัตรก็ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะพระอานนท์ไม่ใช่เจ้าอาวาส ไม่มีอำนาจลงนามในฐานะตัวแทนวัด เมื่อไปร้องเรียน เจ้าคณะอำเภอ ได้ข้อมูลว่า วัดดังกล่าวไม่มีเจ้าอาวาสปกครอง เสมือนวัดร้าง จึงได้มีการแต่งตั้งพระรูปหนึ่งไปรักษาการเจ้าอาวาส แต่พระกลุ่มของพระอานนท์กลับมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับรักษาการเจ้าอาวาส จนเจ้าคณะอำเภอมีคำสั่งขับพระอานนท์กับพวกออกจากวัดภายใน 7 วัน แต่ทั้งหมดย้อนกลับมารื้อถอนเครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟ ท่อปะปา ประตู หน้าต่างของกุฏิ และนำเอาพระเครื่องแบบผงกว่า 4 พันองค์ เงินกว่า 3 แสน รวมถึงรถยนต์ที่ญาติโยมซื้อถวาย เพื่อกิจของสงฆ์ไปด้วย โดยอ้างว่าทั้งหมดเป็นของที่หาซื้อมาด้วยเงินส่วนตัว ทำให้ญาติโยมไม่พอใจและตัดสินใจมาแจ้งความในครั้งนี้
นอกจากนี้จากการสอบถามชาวบ้านยังพบว่า พระสงฆ์กลุ่มนี้พฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อการเป็นพระ เช่น ให้ชาวบ้านซื้อหมูกระทะมาให้ฉันเป็นมื้อเย็น ไม่ทำวัด ไม่บินฑบาต เปิดเพลงเสียงดัง และเมื่อเกิดเรื่องก็สึกแล้วไปบวชใหม่ในต่างอำเภอ ทำให้กลุ่มชาวบ้านสันนิษฐานว่าพระกลุ่มดังกล่าวนั้นไม่มีเจตนามาบวชเพื่อศึกษาพระธรรม แต่มีเจตนามาบวชเพื่อหลอกลวงเงินจากประชาชน
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนกองปราบปรามรับเรื่องไว้ และจะตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย