กองบัญชาการกองทัพไทย 23 ม.ค.-ครอบครัวนตท.ภคพงศ์ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงพบปธ.สอบกรณีบุตรชายเสียชีวิต ยืนยันดำเนินการตามกม.ต่อไป ขณะที่พล.อ.อ.ชวรัตน์ เผยเตรียมดูรายละเอียดผลพิสูจน์ทางแพทย์ ย้ำต้องให้ยอมรับทั้งสองฝ่าย
นายพิเชษฐ นางสุกัลยา ตัญกาญจน์ บิดา-มารดา น.ส.สุพิชา พี่สาว ลุงและ น้านักเรียนเตรียมทหาร(นตท.) ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นำรูปภาพน้องเมยในชุดนักเรียนเตรียมทหารเดินทางมาที่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก่อนเข้าพบพล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของนตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ เพื่อรับฟังผลการสอบสวนการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากใช้เวลาเพียง 20 นาที ครอบครัวของนตท.ภคพงศ์เดินทางกลับทันที โดยมีสีหน้าเคร่งเครียดและไม่พอใจ
นางสุกัลยา มารดา กล่าวว่า ทางกองทัพไทยไม่อนุญาตให้ผู้เป็นลุงและน้าน้องเมยเข้าร่วมรับฟังผลการสอบสวนด้วย จึงรู้สึกไม่โอเค เพราะมากัน 5 คนและทั้งหมดเป็นผู้ที่เลี้ยงดูน้องเมยทั้งสิ้น วันนี้จึงไม่ได้รับฟังผลสอบใด ๆ และยืนยันว่าจะดำเนินคดีเต็มที่
ส่วนนายพิเชษฐ บิดา กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ถ้าต้องการข่าวให้ตามไปที่ จ. ชลบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกลับออกไปจากกองบัญชาการกองทัพไทยเพียง 10 นาที ครอบครัวของน้องเมยก็กลับมาอีกครั้ง และเปิดเผยว่าทางคณะกรรมการอนุญาตให้ทุกคนเข้ารับฟังผลการสอบสวน
ภายหลังใช้เวลาพูดคุยโดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที ทางครอบครัวเดินทางกลับ ซึ่งน.ส.สุพิชา พี่สาว กล่าวสั้น ๆว่า ไม่ได้มาเคลียร์ประเด็นที่ติดใจ แต่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมและจะดำเดินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะมาพูดคุยกับกองทัพอีกหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต
ด้าน พล.อ.อ.ชวรัตน์ ให้สัมภาษณ์ ว่า ครอบครัวของนตท.ภคพงศ์มาพูดคุยในประเด็นที่คาใจและสงสัย โดยเฉพาะสาเหตุการเสียชีวิตรวมถึงรอยช้ำ แต่ไม่ได้มีเอกสารหรือหลักฐานใด ๆ มามอบให้ ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ไม่มีการกดดัน แต่ที่ครอบครัวมีสีหน้าเคร่งเครียดอาจเป็นเพราะเหนื่อย เนื่องจากยังไม่ได้รับประทานข้าว ทั้งนี้ ยังตอบไม่ได้ว่าจะพูดคุยกันอีกรอบหรือไม่ แต่ก็นัดหมายว่าจะแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เพื่อเปิดช่องทางคุยกันมากขึ้น และไม่ได้ขอร้องให้ทางครอบครัวงดให้สัมภาษณ์สื่อ
“ทางครอบครัวแจ้งความประสงค์ขอเอกสารผลการสอบสวน แต่ผมยังไม่ได้ดูอย่างละเอียดว่าขอในส่วนของโรงเรียนเตรียมทหารหรือส่วนใด หลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะพูดคุยถึงผลชันสูตรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับความเห็นของแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าว่าแต่ละฝ่ายมีความเห็นเป็นอย่างไร เนื่องจากคณะกรรมการฯ หลายคนยังไม่เห็นข้อมูลของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องการให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยอมรับของทั้ง 2 ฝ่าย” พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าว
พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าวว่า คณะกรรมการไม่ได้ขีดเส้นกำหนดกรอบเวลาการดูรายละเอียดเนื้อหาผลการชันสูตรของนิติวิทยาศาสตร์ แต่จะทำให้เร็วที่สุด หวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี ด้วยความเข้าใจ ภายใต้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2560 กองทัพไทยแถลงข่าวว่า ได้สอบสวนคนในกองทัพที่เกี่ยวข้องจำนวน 42 คน อาทิ นักเรียนเตรียมทหารทั้งปี 3 และ ปี 1 แพทย์จากกองแพทย์ โรงเรียนเตรียมทหาร แพทย์จากโรงพยาบาลโรงเรียนนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และแพทย์จากศูนย์การแพทย์พระมงกุฏเกล้าฯ สรุปว่า ไม่มีผู้ใดสั่งลงโทษหรือทำร้ายจนเป็นเหตุให้นตท.ภคพงศ์เสียชีวิต ไม่พบรอยฟกช้ำภายนอก ส่วนซี่โครงที่หักไม่ได้ตัดประเด็นการทำ CPR นานกว่า 4 ชั่วโมง และเชื่อว่าสาเหตุการตายมาจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน.-สำนักข่าวไทย
