พาณิชย์นำร่องทำหมู่บ้านอินทรีย์ดันออร์แกนิกฟาร์มเอาเล็ท

ฉะเชิงเทรา 21 ม.ค. – พาณิชย์ลุยเกษตรอินทรีย์เต็มรูปแบบ ขับเคลื่อนหมู่บ้านอินทรีย์ให้ได้ 12 แห่ง ดันออร์แกนิกฟาร์มเอาเล็ทให้ได้ 19 แห่งในปี 61 ประเดิมหมู่บ้านอินทรีย์บ้านยางแดง สนามชัยเขต ฉะเชิงเทรา พร้อมบูมหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์ 8 แห่ง เป็นจุดเช็คอินใหม่ หวังดึงคนเข้าไปเที่ยวเลือกซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ ร่วมจัดกิจกรรม Ride to Success ปั่นเพื่อเปลี่ยนมุมมองใหม่วิถีเกษตรอินทรีย์ดีต่อกายและใจ


นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า วันที่ 20-21 มกราคมที่ผ่านมา กรมฯ ได้นำคณะผู้บริหารพาณิชย์ ดารา นักแสดง สื่อมวลชน และประชาชนที่สนใจร่วมกิจกรรม Ride to Success ปั่นเพื่อเปลี่ยนมุมมองใหม่วิถีเกษตรอินทรีย์ดีต่อกายและใจ เพื่อส่งเสริมหมู่บ้านอินทรีย์บ้านยางแดง ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านอินทรีย์ที่กระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุน ตั้งอยู่ ต.คู้ยายหมี อ. สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทราให้เป็นที่รู้จัก และดึงดูดให้คนเข้ามาท่องเที่ยว ถือเป็นการเริ่มต้นนโยบายการผลักดันให้หมู่บ้านอินทรีย์เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของคนไทยที่มีใจรักสุขภาพและรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลดีให้เกษตรกร ชาวบ้านและชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น และปีนี้ได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์ส่งเสริมผลักดันหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์อื่น ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเน้นจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ชุมชน การจัดนิทรรศการและการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านผลิตและการตลาดเกษตรอินทรีย์


นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า หมู่บ้านอินทรีย์บ้านยางแดงเป็นการรวมตัวของกลุ่มเกษตรอินทรีย์กลุ่มต่าง ๆ ในจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้ชุมนุนวางรากฐานกระบวนการพัฒนาชุมชนแบบมีส่วนร่วม เน้นการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนของเกษตรกรรายย่อยและสหกรณ์กรีนเนท จำกัด ซึ่งส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนระบบการผลิตเป็นเกษตรอินทรีย์ยั่งยืนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร และรายได้ รวมถึงฟื้นฟูอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและพันธุกรรมพืชท้องถิ่น และเป็นหมู่บ้านที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ระดับประเทศ และระดับโลก ได้แก่ IFOAM , EU และ CANADA โดยหมู่บ้านอินทรีย์มีข้อกำหนดแต่ละหมู่บ้านต้องมีเกษตรกรไม่ต่ำกว่ารัอยละ 50 ของครัวเรือนทั้งหมด เกษตรกรต้องพร้อมใจกันเข้าสู่ระบบการทำเกษตรอินทรีย์เพื่อผลิตสินค้าในชุมชน และนำผลผลิตจำหน่ายทั้งภายใน และภายนอกชุมชนด้วย 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ทำแผนผลักดันหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์ 8 แห่ง โดยกระทรวงพาณิชย์เข้าไปส่งเสริมให้เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ และยังมีแผนผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้คนเข้าไปเที่ยว ไปชม เลือกซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ดูวิถีชีวิตชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้าที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งเกษตรกรสามารถผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ออกมาจำหน่ายในท้องตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละหมู่บ้านมีสินค้าที่โดดเด่นแตกต่างกันและสินค้าที่ผลิตได้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับโลก ซึ่งหลายสินค้าของไทยได้รับการรับรองมาตรฐานจากมาตรฐานเกษตรอินทรีย์นานาชาติ (IFOAM) มาตรฐานของสหภาพยุโรป (อียู) แคนาดา มาตรฐานการรับรองแบบมีส่วนร่วม (PGS) และมาตรฐานออร์แกนิกไทยแลนด์ จึงเป็นสิ่งที่การันตีสินค้าไทยได้เป็นอย่างดี ดังนั้น กรมฯ ตั้งเป้าเพิ่มหมู่บ้านอินทรีย์ (Organic Village) อีก 4 แห่งภายในปี 2561 ทำให้มีหมู่บ้านอินทรีย์ทั้งสิ้น 12 แห่ง และหุบเขาอินทรีย์ 1 แห่ง (Organic Valley) รวมถึงขยายออร์แกนิก ฟาร์ม เอาเล็ท เพิ่มอีก 4 แห่งในปี  2561 จากปัจจุบันมีอยู่ 15 แห่ง ทำให้ปีนี้จะมีหมู่บ้านอินทรีย์ทั้งสิ้น 12 แห่ง หุบเขาอินทรีย์ 1 แห่ง และออร์แกนิก ฟาร์ม เอาเล็ท 19 แห่ง ซึ่งหมู่บ้านอินทรีย์อยู่ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติฉบับที่ 2 ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกเป็น 600,000 ไร่ภายในปี 2564 เพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ 200,000 ไร่ โดยจะลงพื้นที่ไปสำรวจให้ความรู้เกษตรกร และผลักดันให้มีการรวมตัว รวมกลุ่มให้มากขึ้น


ทั้งนี้ หมู่บ้านอินทรีย์ทั้ง 8 แห่งที่ประสบผลสำเร็จ ได้แก่ 1.หมู่บ้านริมสีม่วง ต.ริมสีม่วง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มีสินค้าเด่น คือ มันหวานญี่ปุ่น มะนาว มะม่วง แมคคาเดเมีย สรตอเบอร์รี่ กล้วย พืชผักเมืองหนาว และกาแฟ 2.หมู่บ้านห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมปทุม ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ผักสวนครัว 3.หมู่บ้านโสกขุมปูน ต.นาโส่ อ.กุดชุม จ.ยโสธร มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวมะลิแดง ผักสวนครัว 4.หมู่บ้านทัพไทย ต.ทมอ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวหอมนิล 5.หมู่บ้านหนองสะโน ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวสารบรรจุถุง (ข้าวหอมมะลิและข้าวกล้องหอมมะลิ) 6.หมู่บ้านหนองหอย ต.กุดชุมแสง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวสารบรรจุถุง (ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียว กข.6) ใบหม่อน กล้วยน้ำว้า กล้วยหอมทอง ตะไคร้ ฟักทอง 7.หมู่บ้านท่าเดื่อน้อย ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี มีสินค้าเด่น คือ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวทับทิมชุมแพ ข้าวโพด งาดำ ถั่วขาว ผักสวนครัว ผลไม้ พืชสมุนไพร และ 8.หมู่บ้าน บางพะเนียง ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา มีสินค้าเด่น คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอรี่ ผลไม้ ผักสวนครัว พืชสมุนไพรเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย