“สมคิด” ร่วมกำหนดแผนประชารัฐปี 61

สำนักงาน ก.พ. 19 ม.ค. – รองนายกรัฐมนตรีร่วมกำหนดแผนประชารัฐปี 61 ผลักดันเศรษฐกิจชีวภาพเงินลงทุน 4 แสนล้านบาท พัฒนาบุคลากรรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เข้าถึงออนไลน์ทั้งการศึกษา การค้าขายสินค้าชุมชน ยืนยันไม่ได้ยุบคณะประชารัฐ แต่รวมกลุ่มงานให้กระชับ 3 กลุ่ม 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานประชุมคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ เพื่อพิจารณาแผนงานปี 2561 ของคณะทำงานสานพลังประชารัฐ 12 คณะ เพื่อให้การผลักดันมีประสิทธิภาพ จึงแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มงาน ทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มอบหมายให้นายกานต์ ตระกูลฮุน รับผิดชอบ  การพัฒนาคุณภาพคน มอบหมายให้นายศุภชัย เจียรวนนท์ หัวหน้ากลุ่มดูแล กลุ่มลดความเหลื่อมล้ำ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ หัวหน้ากลุ่ม โดยแต่ละคณะประชารัฐยังทำงานตามปกติเหมือนเดิม เพราะทุกกลุ่มเกี่ยวข้องงานทั้ง 3 ด้าน เพื่อให้งานประชารัฐกระชับมากขึ้น 

ด้านการเพิ่มขีดความสามารถ (Thailand 4.0 ) ต้องผลักดัน BigBrother ให้เอกชนรายใหญ่เป็นพี่เลี้ยงเอสเอ็มอีเป้าหมาย 300 ราย จากเอสเอ็มอีที่มีรายได้เฉลี่ย 50 ล้านบาทต่อรายเพิ่มขึ้นเท่าตัว การตั้งบริษัทเพื่อทำ Online Booking Platform คิดค่าธรรมเนียมต่ำกว่าต่างชาติไม่เกินร้อยละ 10 ขณะที่ต่างชาติคิดค่าธรรมเนียมร้อยละ 15-30  การส่งเสริม Mice จัดประชุมสัมมนาในเมืองรอง 9 พื้นที่ จูงใจให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้า ด้วยแนวทาง Tax Refund Counter ในเมืองเพื่อคืนภาษี Vat เป็นเงินสด และเดินหน้าแผนเนรมิตจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของโลก เป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอยุธยาขยายตัว 10 เท่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า และมุ่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวริมฝั่งโขง 7 จังหวัด เชื่อมโยงการท่องเที่ยวในอีสานติดกับ สปป.ลาว ดึงรายได้เข้าท้องถิ่น ยอมรับว่าการท่องเที่ยวกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นเร็วที่สุด 


ทั้งนี้ เพื่อผลักดันนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio economy ) ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก จึงเสนอให้แก้ไขกฎหมาย การตั้งโรงงานใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบหลักทุกพื้นที่ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมชีวภาพ “ขจัดข้อยกเว้นโรงงานตั้งอยู่เดิมระยะ 50 ก.ม.ต้องให้ความยินยอม” เพื่อลงทุนได้ตามแผนงาน การปรับปรุง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลราย นำอ้อยไปผลิตสินค้าชนิดอื่นที่ไม่ใช้น้ำตาลทรายและจัดสรรวัตถุดิบให้เพียงพอต่ออุตสาหกรรมชีวภาพ เพื่อเสนอ ครม.และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ส่งเสริมการตั้งเขตอุตสาหกรรมชีวภาพในพื้นที่ EEC ใช้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท ระหว่างปี (2560-2564)  เขตอุตสาหกรรมชีวภาพภาคเหนือตอนล่าง (นครสวรรค์,กำแพงเพชร) เงินลงทุน 62,500 ล้านบาท ระหว่างปี 2560-2569  เขตอุตสาหกรรมชีวภาพภาคอีสานเตอนกลาง (ขอนแก่น) เงินลงทุน 35,000 ล้านบาท  ระหว่างปี 2560-2569 การผลักดันโครงการพัฒนาเศรษฐกิจเคมีชีวภาพอย่างยั่งยืน เพื่อเสนอ ครม.พิจารณาเดือนกุมภาพันธ์นี้ นับเป็นเงินลงทุนระยะ 10 ปี ประมาณ 381,231 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เกษตรกรกว่า 2 เท่าตัว เกิดการจ้างงานและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรมากกว่า 85,000 บาทต่อคนต่อปี 

ด้านการพัฒนาบุคคลากร มุ่งพัฒนาเกษตรกรให้เป็น SmartFarmer ผ่านศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพ การพัฒนา จัดสรรที่ดินทำกินให้เพียงพอ ส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ประชารัฐเกษตรสมัยใหม่  เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 จากปัจจุบัน 85 แปลง ลดต้นทุนการผลิตร้อยละ 20 นักเรียนอาชีวะ 100,000 คนต่อปี การปั้นนักเรียนต้นแบบอัจฉริยะ 4,000 คนต่อปี เพื่อรองรับความต้องการแรงงานคุณภาพจำนวนมากของ EEC  กำหนดคัดเลือกเพื่อพัฒนาผู้นำด้านเทคโนโลยีจากพื้นที่เป้าหมายร้อยละ 15 ของพื้นที่ สพฐ.หรือประมาณ 4,700  โรงเรียนทั่วประเทศ ของบประมาณสนับสนุนพัฒนาครู 4.0 ร้อยละ 10 ของครูอาชีวะ เสนอขอให้ออก ม.44  สมทบเงินกองทุนตั้งต้น 100 ล้านบาท การนำระบบสื่อดิจิทัลมาใช้ในการศึกษา 

สำหรับเป้าหมายการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม การสร้างอัตลักษณ์ท้องถิ่นทุกจงหวัดที่มี Story อย่างน้อยภาคละ 4 จังหวัด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสนิค้าท้องถิ่น ผ่านแนวคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม เติมจากวัฒนธรรมเดิมที่มีอยู่ในท้องถิ่น ทั้งสินค้าโอทอป อาหารเด่น  โครงการ Amazing thai Host ด้วยการจ้างผู้เกษียณอายุในท้องถิ่น อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 1,700 ราย ช่วยกระจายรายได้ 195 ล้านบาทสู่ท้องถิ่น เมื่ออินเทอร์เน็ตประชารัฐเข้าถึงชุมชน เข้าถึงทุกหมู่บ้านจึงต้องแนะนำเยาวชนดึงความรู้ออนไลน์มาใช้ประโยชน์ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน การสร้างตลาด เพิ่มรายได้ในชุมชน จึงต้องเร่งโปรโมทการใช้อี-คอมเมิร์ชให้ได้รับความนิยม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ