กฟภ. เผยพิสูจน์แล้ว “กล่องประหยัดพลังงาน” ไม่ทำให้ประหยัดพลังงานได้จริง

กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – กฟภ. เผยพิสูจน์แล้ว “กล่องประหยัดพลังงาน” ไม่ทำให้ประหยัดพลังงานได้จริง 


นายสมพงษ์ ปรีเปรม รองผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวมีกล่องประหยัดพลังงานขายตามท้องตลาด โฆษณาว่า หากติดกล่องนี้จะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคพิสูจน์กล่องที่ผู้ขายเรียกว่า “กล่องประหยัดพลังงาน” แล้ว ความจริงเป็นเพียงกล่องเก็บประจุไฟฟ้า หรือตัวปรับค่า Power Factor เมื่อติดตั้งกล่องนี้แล้ว ส่วนที่เรียกว่าตัวประกอบพลังงานไฟฟ้าจะมีค่าเพิ่มขึ้น 

ทั้งนี้ มิเตอร์ที่ใช้วัดไฟในบ้านผู้ใช้ไฟฟ้าทุกครัวเรือนมีส่วนประกอบ 3 ส่วน ส่วนแรก เรียกว่า “แรงดัน” ไฟบ้าน คือ 220 โวลต์ ส่วนที่ 2 คือ กระแสไฟฟ้า และส่วนที่ 3 คือ ค่าตัวประกอบพลังไฟฟ้า


โดย แรงดัน 220 โวลต์ ระบบที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟทุกครัวเรือนมีค่าคงที่ ส่วนที่จะเปลี่ยนแปลงมี 2 ส่วน คือ ส่วนของกระแสไฟฟ้าและค่าตัวประกอบพลังไฟฟ้า เครื่องที่ว่าอาจทำให้กระแสไฟฟ้าลดลง แต่ผลของมันจะทำให้ค่า Power Factor สูงขึ้น เมื่อรวม 3 ค่าเข้าด้วยกัน หน่วยที่วัดออกมาเป็นกิโลวัตต์ที่ใช้งานหรือหน่วยไฟฟ้ามีค่าเท่าเดิม จึงพิสูจน์แล้วว่ากล่องดังกล่าวไม่สามารถทำให้ประหยัดพลังงานได้อย่างแท้จริง 

สำหรับเรื่องการประหยัดพลังงานเป็นเรื่องที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสนับสนุนผู้ใช้ไฟมาโดยตลอด เพราะนอกจากลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ใช้ไฟแล้ว ยังชะลอการลงทุนโรงไฟฟ้าออกไประยะหนึ่งและลดการนำเข้าเชื้อเพลิงไฟฟ้า วิธีการประหยัดพลังงานง่ายๆ ที่ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถนำไปใช้ได้ ประการแรก คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงาน ที่เห็นชัด คือ เครื่องปรับอากาศ ถ้าปรับอุณหภูมิที่ 20 – 22 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดการใช้ไฟที่มากเกินความจำเป็น แต่หากปรับอุณหภูมิที่ 25 – 26 องศาเซลเซียส จะลดการใช้ไฟได้ในปริมาณมาก เนื่องจากเครื่องปรับอากาศเป็นอุปกรณ์ที่เปิดใช้งานเป็นระยะเวลานาน หากเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น จะลดการใช้ไฟได้โดยอัตโนมัติ ประการที่สอง ตรวจสอบว่าพื้นที่ใดไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า ให้ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน จะประหยัดพลังงานโดยไม่ต้องลงทุนใดๆ และอีกวิธีที่เป็นการประหยัดพลังงานที่ได้ผลค่อนข้างชัดเจน คือ การเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ในการให้แสงสว่าง จะประหยัดพลังงานได้อย่างเป็นรูปธรรม. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

voting ballot of Manchester, New Hampsher

เผยผลเอ็กซิตโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024                                               

รอยเตอร์เผยเอ็กซิตโพลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า 2 ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งขันกันได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใดในสัดส่วนเท่าใด

รองเจ้าอาวาสวัดดัง เปย์สีกาไม่อั้น ลาสิกขาแล้ว

“รองเจ้าอาวาสวัดดัง” ลาสิกขาแล้วกลางดึก หลังปมฉาวเปย์สีกาไม่อั้น บอกไม่อยากให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ-กลาง-ตอ.ลมแรง ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรงในภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ลมแรง และมีฝนฟ้าคะนอง 10%

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

หาทางออก แม่ทำกรงขังลูกติดยาหวังรักษา

กรณีแม่วัย 64 ปี ที่บุรีรัมย์ สร้างห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมรับลูกชายวัย 42 ปี กำลังจะกลับจากการบำบัด แต่ถูกตีความว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมหาทางออกในการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง

จับ 2 หนุ่มญี่ปุ่นอุ้มรีดเงิน ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ

สืบนครบาล จับชายชาวญี่ปุ่น 2 คน อุ้มเพื่อนร่วมชาติ ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ เรียกเงิน 3 แสนบาท พบหนีคดีจากญี่ปุ่นมาขายกัญชาในประเทศไทย