กรุงเทพฯ 17 ม.ค.- เตรียมชงคณะกรรมการ EEC ชุดใหญ่ หนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่ 11 (S11) ที่รัฐบาลจะส่งเสริม
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(กรศ.) ครั้งที่ 1/2561 วันนี้(17 ม.ค.) ซี่งมีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน ที่ประชุมอนุมัติตามที่สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) เสนอเพิ่มให้มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายตัวที่ 11 หรือ S11 อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยกรอบส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศนี้ เป็นไปตามตามแนวนโยบายของพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มอบนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กนศ.)เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล
ดังนั้นในวันที่ 1 ก.พ.2561 นี้ สกรศ. จะนำเสนอกรอบส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรม S11 ให้ที่ประชุมกนศ.พิจารณาให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทย มีการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ โดยขณะนี้มี ประเทศที่สนใจลงทุนแล้วทั้งจากสาธารณะรัฐประชาชนจีน สหรัฐ และนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อมีการลงทุนเกิดขึ้นจริง ก็จะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย ให้มีศักยภาพอย่างน้อยในการซ่อมแซมอาวุธยุทธโธปกรณ์ได้เอง และอาจสามารถผลิตอาวุธยุทธโธปกรณ์ได้ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ และหากกรอบการส่งเสริมอุตสาหกรรมตัวที่ S11 ได้รับความเห็นชอบ แผนดำเนินการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ 11 หรือ S11 นี้ จะจัดทำเสร็จกลางปี 2561 โดยแบ่งการลงทุนออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกด้านการผลิตยุทธโธปกรณ์ ส่วนนี้จะอยู่ในการดูแลของกระทรวงกลาโหม อีกส่วนคือ เทคโนโลยีที่ใช้ได้ทั้งทางการทหารและพาณิชย์ ส่วนนี้จะอยู่ในการดูแลของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งนี้ จะต้องได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)เหมือกับอุตสาหกรรมทั่วไป ขณะเดียวกันรัฐบาลกำหนดสัดส่วนการซื้อจากผู้ผลิตที่เข้ามาลงทุนด้วย – สำนักข่าวไทย