BIG STORY : หลักเกณฑ์รับฝากเงินจากประชาชน

กทม. 14 ม.ค. – แบงก์ชาติเร่งออกมาตรการตรวจสอบและป้องกันการนำบัตรประชาชนผู้อื่นมาแอบอ้างเปิดบัญชี หลังมีผู้ตกเป็นเหยื่อเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง


หลังมีบุคคลนำบัตรประชาชนผู้อื่นมาแอบอ้างเปิดบัญชีธนาคารเกิดขึ้นหลายกรณี เหยื่อรายล่าสุด คือ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ถูกขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบัตรประชาชนไปขอเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่ง รวม 9 บัญชี ทำให้ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ติดคุกนาน 3 วัน ก่อนได้รับประกันตัว


ล่าสุด แบงก์ชาติเร่งให้ผู้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเร่งด่วน โดยร่วมมือกับ ปปง. พร้อมกำชับให้แต่ละธนาคารกวดขันมากขึ้น และให้ฝ่ายตรวจสอบภายในของแต่ละธนาคารเพิ่มการตรวจสอบในเรื่องนี้  โดยให้พนักงานสาขาทำความรู้จักตัวตนลูกค้า หรือ KYC ตามที่กำหนดไว้ และขอความร่วมมือให้ชมรมตรวจสอบธนาคารพาณิชย์ร่วมกันหาแนวทางป้องกันปัญหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันมากขึ้น 

ขณะที่หลักเกณฑ์การรับฝากเงินจากประชาชน แบงก์ชาติได้กำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่ 6 กรกฎาคม 2559  ระบุการเปิดบัญชีรับฝากเงินแบบเห็นหน้าลูกค้าแบงก์ต้องทําความรู้จักลูกค้า ตรวจสอบข้อมูลและเอกสารแสดงตนให้ถูกต้อง พร้อมทั้งให้ลูกค้าลงลายมือชื่อ เพื่อยืนยันการทําธุรกรรมการเปิดบัญชี


ส่วนการเปิดบัญชีรับฝากเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่า และทำได้เฉพาะกรณีลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา แบงก์จะต้องมีกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์ตัวตนลูกค้าให้ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับกรณีการเปิดบัญชีแบบเห็นหน้า และต้องมีกระบวนการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ การเปิดบัญชี แบงก์จะให้ลูกค้าปกปิดชื่อจริง ใช้ชื่อแฝง หรือใช้ชื่อปลอมมิได้

สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชีเพื่อฝากเงินแบบเห็นหน้า กรณีเป็นบุคคลธรรมดา ต้องมีบัตรประชาชน หรือเอกสารอื่นที่ระบุเลข 13 หลักของบัตรประชาชน ส่วนการเปิดบัญชีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ แบงก์ต้องจัดให้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทดแทนการพบเห็นหน้าลูกค้า ได้แก่ ระบบ Video conference ที่สามารถสัมภาษณ์และสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างชัดเจน หากไม่สามารถทำได้ จะต้องให้ลูกค้ามาเปิดบัญชีแบบพบเห็นหน้าแทน ขณะที่ลูกค้าประเภทอื่น ให้ปฏิบัติตามระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว