กทม. 11 ม.ค. – ไปทำความรู้จักกับแก๊งยากูซ่าของญี่ปุ่น โดยแก๊งยามากุชิกุมิ เป็นแก๊งใหญ่มีสมาชิก 600,000 คน และมีมูลค่าประมาณ 2.86 ล้านล้านบาท
คำว่า “ยากูซ่า” มาจากการเล่นไพ่ของญี่ปุ่น ชื่อ “โออิโช-คาบุ” คล้ายคลึงกับไพ่บาคารา รูปแบบการนับดั้งเดิมของญี่ปุ่น เรียกตัวเลขหรือแต้มของไพ่ว่า ยา (เลข 8) กู (เลข 9) และซ่า (เลข 3) ด้วยเหตุนี้จึงเป็นต้นกำเนิดของคำว่า “ยากูซ่า”
ส่วนการสักร่างกายมีไว้เปลือยโชว์ขณะเล่นพนัน เป็นสัญลักษณ์ประกาศศักดา รวมถึงการบั่นปลายนิ้วก้อยมือซ้าย แทนความสำนึกผิดอย่างสูง นิ้วก้อยซ้ายสำคัญมากในการจับถือถ้วยลูกเต๋าเล่นพนัน
ขณะที่ตำรวจญี่ปุ่นเรียกแก๊งยากูซ่าว่า “โบเรียวกูเดง” หมายถึง “กลุ่มที่มีความรุนแรง” แต่ยากูซ่าเรียกตัวเองว่า “นินเกียว เดงไท” หมายความว่า “องค์กรที่กล้าหาญ”
การลงโทษของยากูซ่ามีทั้งหมด 7 ขั้น ไล่จากหนักไปหาเบา คือ ตัดขาดออกจากกลุ่ม ไล่ออกจากกลุ่ม การจ่ายค่าปรับ ตัดนิ้ว ลดตำแหน่ง กักบริเวณ และตัดผม
ปัจจุบันญี่ปุ่นขึ้นบัญชีดำยากูซ่าทั้งหมด 3 กลุ่มใหญ่ คือ อันดับ 1.แก๊งยามากุชิกุมิ มีสมาชิก 600,000 คน เป็นแก๊งของนายชิเกฮารุ ชิเรอิ ซึ่งถูกตำรวจจับกุมมีอิทธิพลระดับนานาชาติ จากรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐพบว่า ข้อมูลแก๊งนี้มีมูลค่าสูงถึง 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.86 ล้านล้านบาท) ทำให้เป็นหนึ่งในแก๊งมาเฟียที่รวยที่สุดในโลก รายได้ส่วนใหญ่มาจากการลงทุนธุรกิจหลายประเภท ตั้งแต่การเข้าถือหุ้นบริษัทซอฟต์แวร์ การค้าอาวุธ อุตสหกรรมหนังเอวี การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
รองลงมา คือ แก๊งซุมิโยชิ-ไค มีสมาชิก 6,000 คน และแก๊งอินะงะงะวะ-ไค มีสมาชิก 4,000 คน นอกจากนั้นจะเป็นกลุ่มย่อยมีสมาชิกในจำนวนหลักร้อย
ซูโม่ เป็นกีฬาที่เหล่ายากูซ่านิยมมาก อดีตนักซูโม่ผู้ประสบความสำเร็จบางคนสามารถขึ้นเป็นถึงหัวหน้าแก๊งได้เลย สมาชิกยากูซ่าที่เสียชีวิตแล้วบางคนอาจถูกถลกผิวหนัง นำเอาลายสักไปขายตลาดมืดเพื่อจัดแสดงในแกลลอรี่
ด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า สถานที่ที่แก๊งยากูซ่ามักเข้ามากบดานในประเทศไทยคือ ย่านสุขุมวิท เนื่องจากเป็นแหล่งที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยจำนวนมาก และมักหนีคดีจากญี่ปุ่นเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว จากนั้นจะตัดการติดต่อหรือทิ้งหนังสือเดินทาง ป้องกันถูกแกะรอยติดตาม หลังเหตุการณ์จับกุมนายชิเกฮารุ ชิเรนิ แก๊งยามากุชิกุมิ ที่จังหวัดลพบุรี จากการตรวจสอบพบว่านายชิเกฮารุเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่ปี 2548 หลังร่วมกับลูกน้องอีก 7 คน ยิงรองหัวหน้าแก๊งคามิยะ แก๊งยากูซ่าคู่อริเสียชีวิต และถูกออกหมายจับ โดยมีภรรยาเป็นคนไทย แก๊งยากูซ่าที่หนีคดีเข้ามาประเทศไทยมักแต่งงานกับหญิงไทย เพื่อสะดวกต่อการใช้ชีวิต จากการตรวจไม่พบว่ามีสมาชิกของแก๊งนี้กบดานอยู่ประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งที่พักของชาวญี่ปุ่น หากพบพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคง เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี หรือหลอกหญิงไทยไปค้าประเวณี จะดำเนินการปราบปรามจับกุมทันที. – สำนักข่าวไทย