‘เล่นจ๊ะเอ๋’ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบช่วยพัฒนาสมอง

กทม.10 ม.ค.-แนะสิ่งเล็กๆที่สร้างลูก”จากสิ่งใกล้ตัวด้วยอุปกรณ์ ศูนย์บาท  การเล่นจ๊ะเอ๋ในเด็กต่ำกว่า 2 ขวบส่งผลพัฒนาการทางสมองอย่างคาดไม่ถึง”


ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดโครงการส่งเสริมพัฒนาเด็ก  ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และภาคีเครือข่ายต่างๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้แก่เด็กจากเรื่องใกล้ตัวที่ทำได้ง่าย มีพ่อแม่นำลูกหลานมาร่วมกิจกรรมโดยมี แพทย์ด้านพัฒนาการเด็กมาให้ความรู้และแนะนำวิธีการส่งเสริม พัฒนาการทางสมองของ ลูก 


โดยได้จัดคู่มือพัฒนาลูกจากสิ่งใกล้ตัว  เช่น  นิทานจะเอ๋ หรือการยกมือปิดหน้าแล้วจะเอ๋กับลูก เป็นสื่อที่ผู้ปกครองทุกคนทำได้เป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว การอ่านนิทานเป็นตัวอย่างง่าย ๆ ที่ส่งเสริมพัฒนาการลูก โดย สสส. จัดทำสื่อรณรงค์แนวทางส่งเสริมพัฒนาการออกมาในรูปแบบคลิปออนไลน์และภาพยนตร์โฆษณาจำนวน 5 เรื่องโดยจะถูกส่งมอบกระจายไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงพยาบาลเครือข่ายด้านเด็กต่างๆทั่วประเทศและเปิดให้ผู้ปกครองดาวน์โหลดฟรีด้วยคิวอาร์โค้ด www. khunlook.com และ Facebook Page “สิ่งเล็กๆที่สร้างลูก” 


ทั้งนี้ มีข้อมูลผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยปี 2558 – 2559 โดยองค์การยูนิเซฟประเทศไทยสำนักงานสถิติแห่งชาติและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพบว่า ผู้ใหญ่ในครัวเรือนอย่างปู่ย่าตายายมีบทบาทสูงต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กในช่วงอายุ3-5ปี ถึง ร้อยละ 92.7

ขณะที่บทบาทแม่ในการส่งเสริมการเรียนรู้อยู่ที่ร้อยละ 62.8 ตามด้วยบทบาทของพ่อร้อยละ 34 ที่น่าสนใจคือพบว่าเด็กอายุต่ำกว่า5ปีที่เล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือแท็บเล็ตเครื่องเล่นเกมมีสูงถึง ร้อยละ 50 และเกือบ 7ใน 10 ของเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไปเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะเด็กใน กทม.และภาคใต้ ซึ่งการเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่อายุยังน้อยอาจส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นได้   

นอกจากนี้ยังพบช่องว่างของพัฒนาการเด็กเล็กตามระดับการศึกษาของแม่และฐานะทางเศรษฐกิจโดยพบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่มีหนังสือสำหรับเด็กอย่างน้อย 3 เล่มมีเพียงร้อยละ 41.2 เท่ากับว่าอีกร้อยละ 59   มีหนังสือเด็กในบ้านไม่ถึง 3 เล่ม โดยเด็กที่ร่ำรวยมีหนังสือสำหรับเด็กในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มที่ยากจนถึง 3 เท่า อาจทำให้การเลี้ยงดูและ พัฒนาการทางสมองของเด็กแตกต่างกัน  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง