ทำเนียบรัฐบาล 8 ม.ค.-นายกฯมอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ 785 คน ขอให้ทุกคนเรียนรู้หลายกิจกรรม พัฒนาตนเองสู่อนาคตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ใช้โซเชียลอย่างรู้เท่าทัน รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย รักสถาบันหลักของชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้โอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ โดยแบ่งเป็นเด็กและเยาชนที่มีความประพฤติดี เรียนดี มีคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์ ขยัน ประหยัด กตัญญูและอุทิศตนเพื่อส่วนรวม จำนวน 550 คน เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติในด้านต่าง ๆ จำนวน 235 คน รวม 785 คน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561
นายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาทว่า ไทยจำเป็นต้องพัฒนาด้านการเรียนรู้ในหลาย ๆ กิจกรรม เพราะความรู้ที่ได้รับจากการศึกษามีความสำคัญต่อการประกอบอาชีพ แต่ที่สำคัญกว่าคือการเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมอนาคต ซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องรู้ให้เท่าทัน ซึ่งเด็กและเยาวชนที่มาอยู่ตรงนี้หลายต่อหลายรุ่น ถือว่ามีคุณภาพ โดดเด่น ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมนักเรียนอาชีวะไทยที่คว้าแชมป์และรองแชมป์ การแข่งขันแกะสลักหิมะน้ำแข็ง นานาชาติ ประจำปี 2561 ที่ประเทศจีน และเห็นว่าต้องติดตามบุคคลเหล่านี้ ว่าในอนาคตพวกเขาไปอยู่ในจุดใด เพราะจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาต่อเนื่องทุกด้านรวมไปถึงด้านการเมือง ซึ่งส่วนตัวไม่ได้กลียดการเมือง จึงขอทุกคนอย่ารังเกียจการเมือง เพราะในอนาคตบางส่วนอาจจะได้เข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง และประชาชนทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล สร้างนักการเมืองหน้าใหม่ แทนคนเก่าที่อายุมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวฝากถึงการใช้โซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีของเด็กและเยาวชนว่า ต้องระมัดระวัง มีภูมิคุ้มกันที่ดี รู้เท่าทัน สามารถแยกแยะได้ ใช้เท่าที่จำเป็นและเกิดประโยชน์ ขณะเดียวกันต้องรู้จักวางแผนการใช้ชีวิต คำนึงถึงหนี้สิน และให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว รวมทั้งนำความรู้ไปพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนของตัวเอง
นายกรัฐมนตรี ขอให้ร่วมกันปลูกฝังในสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งเรื่องของวัฒนธรรมและสังคม เช่น การไหว้ผู้ใหญ่ อ่อนน้อมถ่อมตน กตัญญู มีระเบียบวินัย รู้ผิดชอบชั่วดี ซื่อสัตย์ ใช้เหตุผล ที่สำคัญต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ชาติดำรงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นหลักชัยของประเทศ ที่ต้องรักษาไว้ จงภูมิใจในความเป็นไทยและเติบโตขึ้นเป็นคนเก่งและคนดี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลคาดหวังให้คนไทยรู้กฎหมาย ทั้งรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูก และกฎหมายต่างๆ โดยเบื้องต้นให้กระทรวงยุติธรรม ทำเป็นอินโฟกราฟฟิ เพื่อความเข้าใจที่ง่าย ก่อนจะทำสำเนาให้กระทรวงศึกษาธิการนำไปสอนเป็นวิชาเสริมในโรงเรียนและสถาบันการศึกษา เพราะหากไม่เข้าใจกฎหมาย สังคมจะวุ่นวาย ขัดแย้งไม่จบสิ้น การจะทำอะไรต้องรู้กฎหมาย จะได้ไม่มาพูดอีกว่าเกิดการรังแกฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ เพราะกฎหมายมีไว้ให้สังคมสงบ ไม่ได้มีไว้ทำร้ายใคร และในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่เคยคิดจะใช้กฎหมายทำร้ายใคร
หลังให้โอวาทเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้ทักทายกับเด็กและเยาวชนก่อนจะชมผลงานของเด็กและเยาวชนที่นำมาจัดแสดง และจะมอบให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีทั้งภาพวาดและภาพถ่ายพล.อ.ประยุทธ์ในอิริยาบทต่างๆ รวมถึงของที่ระลึกด้วย หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายรูปกับเด็กและเยาวชนดีเด่น
นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ได้ให้แนวทางว่าต้องพัฒนาเด็กทั้งประเทศให้ได้ บนพื้นฐานความแตกต่างซึ่งกันและกัน และขอแสดงความยินดีกับเด็ก ผู้ปกครอง และครูอาจารย์ ที่สอนสั่งให้เด็กได้รับรางวัลได้รับการยอมรับ เพราะประเทศเราต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์แล้ว นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับสื่อมวลชนและผู้ปกครองที่อยู่ในบริเวณนั้น ว่า หากใครต้องการสอบถามอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองหรือปัญหาความขัดแย้ง หรือถ่ายรูปเป็นที่ระลึกให้ถ่ายกับสแตนดี้ โดยนายกรัฐมนตรี ให้เจ้าหน้าที่นำสแตนดี้มาตั้งไว้ตรงไมโครโฟนจุดให้สัมภาษณ์ ก่อนจะเดินยิ้มโบกมือลา และทำมือเป็นสัญลักษณ์ไอ เลิฟ ยู สร้างเสียงหัวเราะให้สื่อมวลชนและผู้ปกครองที่มารออย่างครื้นเครง.-สำนักข่าวไทย
