ลดราคาดีเซลได้ 20-30 สต.หากปรับโครงสร้างหน้าโรงกลั่นฯ


กรุงเทพฯ  7 ม.ค.- นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล  อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากฯ
แนะก.พลังงาน
ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นใหม่ ยกเลิกค่าปรับคุณภาพกำมะถัน ที่ใช้มานาน
15 ปี ชี้โรงกลั่นฯคืนทุนและมีกำไรสูงแล้ว พร้อมแย้งปรับขึ้นค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกไม่ควรทำช่วงนี้
ประชาชนมีรายจ่ายเพิ่ม 6,500 ล้านบาท/ปี


นายอนุสรณ์  กล่าว ว่า จากกรณีกระทรวงพลังงาน กำลังศึกษาให้บริษัทน้ำมัน
ปรับค่าการตลาดขายปลีกที่เหมาะสม จาก
1.50บาทต่อลิตร เป็น1.70บาทต่อลิตร
ฟังดูแล้วตกใจ ถ้าจะต้องดำเนินการในช่วงนี้ เพราะนั้นหมายความว่า
ราคาขายปลีกจะปรับขึ้นทันที
20สต.ต่อลิตร
แม้อาจจะไม่มาก แต่หมายถึง ผู้ใช้น้ำมัน ต้องจ่ายค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นทันทีราว
6,500ล้านบาทต่อปี ก่อภาระให้กับประชาชนทันที นอกจากนั้น
ราคาสินค้าอื่นๆก็มีโอกาสปรับขึ้น เพราะค่าขนส่งต่างๆจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

         “ที่จริงเรื่องค่าการตลาด บริษัทน้ำมัน
ได้เพียรพยายามขอปรับเพิ่ม มานานหลายปี
เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆในการจำหน่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นทุกๆปี กระทรวงพลังงาน
ได้ศึกษาเรื่องนี้มานาน และกำลังพิจารณาว่าอาจจะยอมให้ปรับเพิ่มขึ้นได้
แต่สิ่งหนึ่งที่การศึกษาควรพิจารณาด้วย คือยอดขายน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก ใน
2ปีที่ผ่านมา เพราะราคาน้ำมันลดลงมาก แต่ยอดการใช้น้ำมันทั้งแก๊สโซฮอล์
และดีเซล ปรับสูงขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่บริษัทน้ำมัน แน่นอน รายได้
และกำไร ก็มากขึ้นตามมา เกิดแรงจูงใจในการเร่งหาสถานที่
เปิดสถานีบริการใหม่ๆเพิ่มขึ้น จะเห็นว่ามีสถานีบริการเกิดใหม่จำนวนมากทั่วประเทศ
เพราะถ้าธุรกิจไม่ดี เป็นไปไม่ได้ ที่บริษัทน้ำมันต่างๆจะแย่งกันเปิดแข่งกันแบบนี้”นายอนุสรณ์
กล่าว

             นอกจากนี้ถ้าไปดูผลประกอบการ
ของบริษัทน้ำมันก็จะพบว่าดีมาก มีกำไรจำนวนมาก แสดงว่าค่าการตลาดและยอดขายปัจจุบัน
ยังอยู่ได้สบายๆ ดังนั้นการยอมให้ บริษัทน้ำมัน ปรับเพิ่มค่าการตลาด
ยังควรทำในเวลานี้หรือไม่ ทางกระทรวงพลังงานควรพิจารณา ผลกระทบให้รอบด้าน


           นายอนุสรณ์ ระบุด้วยว่าสิ่งที่กระทรวงพลังงานควรทำมากกว่า
คือการเจรจากับ โรงกลั่นน้ำมัน ว่าสูตรราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่น ควรมีการทบทวน และ
ปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เพราะสูตรเหล่านี้มีการใช้เป็นเวลานานมากแล้ว
ตัวอย่างเช่น น้ำมันดีเซล ปัจจุบัน อิงกับราคาประกาศน้ำมันดีเซลตลาดสิงคโปร์ (
MOP หรือ Mean of Platt)คุณภาพกำมะถัน 500 ppm และมีค่าปรับคุณภาพกำมะถันให้เป็น 50 ppm ตามมาตรฐานไทย ควรจะปรับลดลงได้หรือไม่
เช่น
20-30สตางค์ต่อลิตร
เพราะค่าปรับคุณภาพทางภาครัฐในช่วงนั้น ได้ยินยอมให้มีได้ เพราะโรงกลั่นต้องลงทุน
สร้างหน่วยกำจัดกำมะถันขึ้นมาใหม่ ซึ่งได้เดินเครื่องมาเป็นเวลานานแล้วกว่า
15ปี ปัจจุบันได้คืนทุนหมดแล้ว
จึงถึงเวลาที่โรงกลั่นควรจะคืนส่วนนี้ให้ผู้ใช้น้ำมัน ซึ่งถ้าทำได้
จะช่วยให้ราคาขายปลีกของดีเซลลดลงทันที
20-30สตางค์ต่อลิตร ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้ระดับหนึ่ง
การปรับลดนี้จะทำให้รายได้ของโรงกลั่นลดลงรวม
5 โรงกลั่นประมาณ 4,400-6,600ล้านบาทต่อปี
แต่ถ้าเทียบกับยอดขายของโรงกลั่นทั้งหมดหลายแสนล้านบาทต่อปีถือว่าน้อยมาก  โรงกลั่นจะมีรายได้ลดลงบ้างเฉลี่ยกันไปตามปริมาณการผลิตดีเซล

              “ถ้าโรงกลั่นไม่เห็นด้วย
ก็น่าจะมีการพิจารณา ปรับสูตรอ้างอิง จาก
MOP 500 ppm เป็น MOP 50 ppm แทน และไม่ต้องมีค่าปรับคุณภาพ
ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ถึงแม้ว่า โรงกลั่นจะอ้างเสมอว่า
MOP 50 ppm ยอดซื้อขายแต่ละวันน้อย
ไม่เหมาะกับเอามาใช้เป็นราคาอ้างอิง เพราะแท้จริงกลัวว่าถ้าถูกนำมาใช้ราคาดีเซล
จะลดลงมาก กระทบต่อผลประกอบการมาก”นายอนุสรณ์กล่าว

              นายอนุสรณ์  กล่าวด้วยว่า กระทรวงพลังงานระบุเสมอว่าการค้าขายน้ำมันเป็นตลาดเสรี
ไม่มีการแทรกแซง แต่จากประสบการณ์ รัฐสามารถเข้ามา
ดูแลให้ความเป็นธรรมต่อประชาชนได้เสมอ
เพราะรัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทน้ำมันหลายแห่ง
มีตัวแทนของรัฐเข้าไปเป็นกรรมการบริษัทเหล่านั้น
ถ้ามีแนวทางให้บริษัทน้ำมันทบทวนสูตรราคาน้ำมัน ก็น่าจะทำได้
เชื่อว่าบริษัทน้ำมันต่างชาติ ก็จะให้ความเป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมันเช่นกัน
และถ้าโรงกลั่นของบริษัทไทยมีการปรับสูตรราคา โรงกลั่นของบริษัทต่างชาติ ก็จะมีการปรับสูตรด้วยเช่นกัน
เพราะจำเป็นต้องแข่งขันซึ่งกันและกัน

             นายอนุสรณ์ย้ำด้วยว่า
เรื่องโครงสร้างราคาน้ำมัน มีความจำเป็นต้องถูกทบทวนเป็นระยะ
และควรเปิดเผยให้ประชาชนได้รับรู้ ถือว่าเป็นการเปิดเผยข้อมูลต่อสังคม
มีธรรมาภิบาล ในปัจจุบัน ค่าครองชีพของประชาชนปรับสูงขึ้นเรื่อยๆจึงเป็นหน้าที่ของทั้งรัฐ
และ บริษัทน้ำมันควรหันหน้ามาร่วมคิด หาทางลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน
มั่นใจว่าทุกบริษัทให้ความสำคัญ กับผู้ใช้น้ำมัน
ไม่คิดเอาเปรียบเพราะทุกบริษัทมีนโยบายในการเป็นประโยชน์ ต่อสังคม และ ประเทศชาติ

           ทั้งนี้ โรงกลั่นฯในไทย มีทั้งหมด 6 โรงกลั่น โดย ในส่วนนี้ มี
ปตท.ถือหุ้นใหญ่ 3 โรงกลั่นฯได้แก่ บมจ.ไทยออยล์,บมจ.พีทีทีโกบอลเคมิคอล,บมจ.ไออาร์พีซี
ส่วนโรงกลั่นฯบางจาก มีรัฐถือหุ้นใหญ่ โดยกองทุนประกันสังคมและกระทรวงการคลัง
ที่เหลือ โรงกลั่นเอสโซ่ และโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียมฯ เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ –สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

กต.โต้ท่าทีกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – โฆษก กต. โต้ 4 ข้อ เกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตามที่มีการสอบถามเกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่ออกมาแถลงในประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมานั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้ 1. เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในการประชุม RBC ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.68) โดยฝ่ายกัมพูชาระบุว่าต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ตลอดจนเสนอให้มีความร่วมมือเฉพาะในบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จก่อน 2. ท่าทีของกัมพูชาดังกล่าว เป็นท่าทีที่ย้อนแย้งกันอย่างชัดเจน โดยกัมพูชาอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ยังคงอยู่และถูกนำไปใช้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ที่เป็นพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะยังคงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อไป 3. นอกจากนี้ ตามการแถลงข่าวของโฆษก กห. กัมพูชา และกรณีนายเฮง รัตนา ผอ. CMAC เช้าวันนี้ ที่กล่าวอ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาเสนอต่อคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

มทภ.2 ปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณ

กาฬสินธุ์ 17 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ร่วมพิธียกเสาเอกเจดีย์โนนสาวเอ้ “หลวงปู่ศิลา” พร้อมปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณอายุราชการ “บิ๊กกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 หลังมีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ พล.ท.บุญสิน รับตำแหน่งทางการเมือง หรือต่ออายุราชการ จากผลงานแม่ทัพภาคที่ 2 อันโดดเด่น ถูกใจประชาชน วันนี้ พล.ท.บุญสิน ในฐานะลูกศิษย์คนดังของหลวงปู่ศิลา เดินทางมาร่วมพิธีฉลองประกาศตั้งวัดสวนธรรมปีติ และยกเสาเอก เสาโท เจดีย์โนนสาวเอ้ ณ วัดสวนธรรมปีติ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ขณะทำพิธียกเสาเอก เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนนับหมื่นคนเข้าร่วมพิธี ขณะที่หลายคนมารอต้อนรับ พล.ท.บุญสิน เพื่อมอบกำลังใจและขอบคุณที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มความสามารถจำนวนมาก พล.ท.บุญสิน เปิดเผยถึงแผนในอนาคตหลังจากเกษียณอายุราชการว่า จะไปทำหน้าที่เป็นทหารกองหนุน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศไทย ส่วนตำแหน่งทางการเมืองไม่ขอรับ ขอทำหน้าที่ดูแลประเทศชาติในส่วนที่เราสามารถทำได้.-สำนักข่าวไทย

ร่วมส่งดวงวิญญาณ “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัด

สุรินทร์ 17 ส.ค. – ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีฌาปนกิจร่าง “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัดกลางบัวเชด จ.สุรินทร์ พ่อเผยโล่งใจมีคนเข้าใจลูกชายมากขึ้น วัดกลางบัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ สถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพของพลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ซึ่งก่อเหตุยิงวัยรุ่น 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนถูกพบว่าเสียชีวิตบริเวณป่าริมคลองส่งน้ำบ้านเขื่อนแก้ว พื้นที่ อ.กาบเชิง โดยวันนี้มีพิธีฌาปนกิจศพพลทหารรัฐภูมิ ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติและเพื่อนร่วมงานที่มาร่วมพิธีเป็นอย่างมาก รวมถึงหน่วยงานต้นสังกัด ก่อนทำพิธีมีทหารกองเกียรติยศทำความเคารพศพ นายอำเภอบัวเชด เป็นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นผู้ที่เข้าร่วมงานขึ้นวางดอกไม้จันทน์ โดยก่อนหน้าที่จะประกอบพิธี มีหลายหน่วยงาน องค์กรต่างๆ และประชาชน ร่วมกันมอบเงินจากกองทุนต่างๆ ให้กับครอบครัวของพลทหารรัฐภูมิ พ่อโล่งใจคนเข้าใจลูกชายมากขึ้นนายประยูร ผู้เป็นพ่อ เผยความรู้สึกว่าตอนนี้สบายใจขึ้นมากเกี่ยวกับข่าวของลูกชายที่ออกไปในครั้งแรกส่งผลกระทบต่อสภาจิตใจของคนในครอบครัว ก่อนมีการแก้ไขข่าวที่ถูกต้อง ตรงกับข้อเท็จจริง และมีคนมาให้กำลังใจจำนวนมาก บอกลูกชายครั้งสุดท้ายว่าลูกทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว พ่อภูมิใจในตัวลูกชายมาก พร้อมยอมรับว่ามีคนมาขอสำเนาเลขบัญชีไปเปิดรับเงินบริจาค แต่ไม่ได้เป็นคนเปิดเอง และจะปิดรับบริจาควันจันทร์นี้ (18 ส.ค.) จนถึงขณะนี้ไม่ทราบว่าได้เงินเท่าไร มีน้องชายมาบอกว่าเขาจะโอนมาให้ 50,000 […]