ลดราคาดีเซลได้ 20-30 สต.หากปรับโครงสร้างหน้าโรงกลั่นฯ


กรุงเทพฯ  7 ม.ค.- นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล  อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากฯ
แนะก.พลังงาน
ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นใหม่ ยกเลิกค่าปรับคุณภาพกำมะถัน ที่ใช้มานาน
15 ปี ชี้โรงกลั่นฯคืนทุนและมีกำไรสูงแล้ว พร้อมแย้งปรับขึ้นค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกไม่ควรทำช่วงนี้
ประชาชนมีรายจ่ายเพิ่ม 6,500 ล้านบาท/ปี


นายอนุสรณ์  กล่าว ว่า จากกรณีกระทรวงพลังงาน กำลังศึกษาให้บริษัทน้ำมัน
ปรับค่าการตลาดขายปลีกที่เหมาะสม จาก
1.50บาทต่อลิตร เป็น1.70บาทต่อลิตร
ฟังดูแล้วตกใจ ถ้าจะต้องดำเนินการในช่วงนี้ เพราะนั้นหมายความว่า
ราคาขายปลีกจะปรับขึ้นทันที
20สต.ต่อลิตร
แม้อาจจะไม่มาก แต่หมายถึง ผู้ใช้น้ำมัน ต้องจ่ายค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นทันทีราว
6,500ล้านบาทต่อปี ก่อภาระให้กับประชาชนทันที นอกจากนั้น
ราคาสินค้าอื่นๆก็มีโอกาสปรับขึ้น เพราะค่าขนส่งต่างๆจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

         “ที่จริงเรื่องค่าการตลาด บริษัทน้ำมัน
ได้เพียรพยายามขอปรับเพิ่ม มานานหลายปี
เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆในการจำหน่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นทุกๆปี กระทรวงพลังงาน
ได้ศึกษาเรื่องนี้มานาน และกำลังพิจารณาว่าอาจจะยอมให้ปรับเพิ่มขึ้นได้
แต่สิ่งหนึ่งที่การศึกษาควรพิจารณาด้วย คือยอดขายน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก ใน
2ปีที่ผ่านมา เพราะราคาน้ำมันลดลงมาก แต่ยอดการใช้น้ำมันทั้งแก๊สโซฮอล์
และดีเซล ปรับสูงขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่บริษัทน้ำมัน แน่นอน รายได้
และกำไร ก็มากขึ้นตามมา เกิดแรงจูงใจในการเร่งหาสถานที่
เปิดสถานีบริการใหม่ๆเพิ่มขึ้น จะเห็นว่ามีสถานีบริการเกิดใหม่จำนวนมากทั่วประเทศ
เพราะถ้าธุรกิจไม่ดี เป็นไปไม่ได้ ที่บริษัทน้ำมันต่างๆจะแย่งกันเปิดแข่งกันแบบนี้”นายอนุสรณ์
กล่าว

             นอกจากนี้ถ้าไปดูผลประกอบการ
ของบริษัทน้ำมันก็จะพบว่าดีมาก มีกำไรจำนวนมาก แสดงว่าค่าการตลาดและยอดขายปัจจุบัน
ยังอยู่ได้สบายๆ ดังนั้นการยอมให้ บริษัทน้ำมัน ปรับเพิ่มค่าการตลาด
ยังควรทำในเวลานี้หรือไม่ ทางกระทรวงพลังงานควรพิจารณา ผลกระทบให้รอบด้าน


           นายอนุสรณ์ ระบุด้วยว่าสิ่งที่กระทรวงพลังงานควรทำมากกว่า
คือการเจรจากับ โรงกลั่นน้ำมัน ว่าสูตรราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่น ควรมีการทบทวน และ
ปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เพราะสูตรเหล่านี้มีการใช้เป็นเวลานานมากแล้ว
ตัวอย่างเช่น น้ำมันดีเซล ปัจจุบัน อิงกับราคาประกาศน้ำมันดีเซลตลาดสิงคโปร์ (
MOP หรือ Mean of Platt)คุณภาพกำมะถัน 500 ppm และมีค่าปรับคุณภาพกำมะถันให้เป็น 50 ppm ตามมาตรฐานไทย ควรจะปรับลดลงได้หรือไม่
เช่น
20-30สตางค์ต่อลิตร
เพราะค่าปรับคุณภาพทางภาครัฐในช่วงนั้น ได้ยินยอมให้มีได้ เพราะโรงกลั่นต้องลงทุน
สร้างหน่วยกำจัดกำมะถันขึ้นมาใหม่ ซึ่งได้เดินเครื่องมาเป็นเวลานานแล้วกว่า
15ปี ปัจจุบันได้คืนทุนหมดแล้ว
จึงถึงเวลาที่โรงกลั่นควรจะคืนส่วนนี้ให้ผู้ใช้น้ำมัน ซึ่งถ้าทำได้
จะช่วยให้ราคาขายปลีกของดีเซลลดลงทันที
20-30สตางค์ต่อลิตร ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้ระดับหนึ่ง
การปรับลดนี้จะทำให้รายได้ของโรงกลั่นลดลงรวม
5 โรงกลั่นประมาณ 4,400-6,600ล้านบาทต่อปี
แต่ถ้าเทียบกับยอดขายของโรงกลั่นทั้งหมดหลายแสนล้านบาทต่อปีถือว่าน้อยมาก  โรงกลั่นจะมีรายได้ลดลงบ้างเฉลี่ยกันไปตามปริมาณการผลิตดีเซล

              “ถ้าโรงกลั่นไม่เห็นด้วย
ก็น่าจะมีการพิจารณา ปรับสูตรอ้างอิง จาก
MOP 500 ppm เป็น MOP 50 ppm แทน และไม่ต้องมีค่าปรับคุณภาพ
ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ถึงแม้ว่า โรงกลั่นจะอ้างเสมอว่า
MOP 50 ppm ยอดซื้อขายแต่ละวันน้อย
ไม่เหมาะกับเอามาใช้เป็นราคาอ้างอิง เพราะแท้จริงกลัวว่าถ้าถูกนำมาใช้ราคาดีเซล
จะลดลงมาก กระทบต่อผลประกอบการมาก”นายอนุสรณ์กล่าว

              นายอนุสรณ์  กล่าวด้วยว่า กระทรวงพลังงานระบุเสมอว่าการค้าขายน้ำมันเป็นตลาดเสรี
ไม่มีการแทรกแซง แต่จากประสบการณ์ รัฐสามารถเข้ามา
ดูแลให้ความเป็นธรรมต่อประชาชนได้เสมอ
เพราะรัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทน้ำมันหลายแห่ง
มีตัวแทนของรัฐเข้าไปเป็นกรรมการบริษัทเหล่านั้น
ถ้ามีแนวทางให้บริษัทน้ำมันทบทวนสูตรราคาน้ำมัน ก็น่าจะทำได้
เชื่อว่าบริษัทน้ำมันต่างชาติ ก็จะให้ความเป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมันเช่นกัน
และถ้าโรงกลั่นของบริษัทไทยมีการปรับสูตรราคา โรงกลั่นของบริษัทต่างชาติ ก็จะมีการปรับสูตรด้วยเช่นกัน
เพราะจำเป็นต้องแข่งขันซึ่งกันและกัน

             นายอนุสรณ์ย้ำด้วยว่า
เรื่องโครงสร้างราคาน้ำมัน มีความจำเป็นต้องถูกทบทวนเป็นระยะ
และควรเปิดเผยให้ประชาชนได้รับรู้ ถือว่าเป็นการเปิดเผยข้อมูลต่อสังคม
มีธรรมาภิบาล ในปัจจุบัน ค่าครองชีพของประชาชนปรับสูงขึ้นเรื่อยๆจึงเป็นหน้าที่ของทั้งรัฐ
และ บริษัทน้ำมันควรหันหน้ามาร่วมคิด หาทางลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน
มั่นใจว่าทุกบริษัทให้ความสำคัญ กับผู้ใช้น้ำมัน
ไม่คิดเอาเปรียบเพราะทุกบริษัทมีนโยบายในการเป็นประโยชน์ ต่อสังคม และ ประเทศชาติ

           ทั้งนี้ โรงกลั่นฯในไทย มีทั้งหมด 6 โรงกลั่น โดย ในส่วนนี้ มี
ปตท.ถือหุ้นใหญ่ 3 โรงกลั่นฯได้แก่ บมจ.ไทยออยล์,บมจ.พีทีทีโกบอลเคมิคอล,บมจ.ไออาร์พีซี
ส่วนโรงกลั่นฯบางจาก มีรัฐถือหุ้นใหญ่ โดยกองทุนประกันสังคมและกระทรวงการคลัง
ที่เหลือ โรงกลั่นเอสโซ่ และโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียมฯ เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ –สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]