กรุงเทพฯ 5 ม.ค. – ชาวไร่อ้อยขอให้โรงงานน้ำตาลกู้เงินเพิ่มจากแบงก์จ่ายค่าอ้อยเพิ่มตันละ 50 บาท หากโรงงานใดกู้ไม่ผ่านให้ขอความช่วยเหลือผ่านกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ยืนยันไม่ได้เป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาล แต่เป็นเงินจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เตรียมเสนอ กอน.เคาะกลางเดือนนี้
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 และหัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย เปิดเผยแนวทางการช่วยเหลือค่าอ้อยสำหรับฤดูกาลผลิตปี 2560/2561 เพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้เงินค่าอ้อยเพิ่มจาก 880 บาทต่อตันอ้อยสำหรับพื้นที่ปลูกทั่วไป และ 830 บาทสำหรับอ้อยเขต 5 เป็น 900 บาทต่อตันอ้อย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการทำงานพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย ฤดูการผลิตปี 2560/2561 ที่มีตัวแทนชาวไร่อ้อย ตัวแทนโรงงาน และตัวแทนฝ่ายธนาคารพาณิชย์ และตัวแทนส่วนราชการเข้าร่วม ในที่ประชุมมีการเสนอแนวทางช่วยเหลือหลายแนวทาง ซึ่งในส่วนของชาวไร่อ้อยเสนอให้โรงงานน้ำตาลช่วยเหลือชาวไร่อ้อย ด้วยการให้โรงงานน้ำตาลทั้ง 54 แห่งทั่วประเทศให้การช่วยเหลือด้วยการพิจารณาทำเรื่องขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์เพิ่ม เพื่อนำมาจ่ายเพิ่มค่าอ้อยให้ชาวไร่อ้อย 50 บาทต่อตันอ้อย
นายนราธิป กล่าวว่า ปีนี้ประเมินภาพรวมจะมีผลผลิตอ้อยรวมประมาณ 103 ล้านตันอ้อย อย่างไรก็ตาม แต่ละโรงงานมีสถานภาพทางธุรกิจกับธนาคารพาณิชย์แตกต่างกัน ส่งผลต่อการขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ที่จะได้หรือไม่ต่างกันไป ดังนั้น หากโรงงานใดไม่สามารถขอกู้เพิ่มจากธนาคารพาณิชย์ได้ก็มีช่องทางการขอรับความช่วยเหลือวงเงินผ่านกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายที่จะพิจารณานำเงินจากระบบอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยที่จะมีการนำเงินส่งเข้ากองทุนในแต่ละเดือน ๆ 2 งวด นำมาสำรองจ่ายไปก่อนได้ ยืนยันว่าเงินดังกล่าวไม่ใช่เงินของทางราชการหรือของรัฐบาลนำออกไปสนับสนุนชาวไร่อ้อย แต่เป็นเงินของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล
นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการเสนอแนวทางช่วยเหลือชาวไร่อ้อยอีกหลายแนวทาง ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดจะมีการสรุปเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) พิจารณาในการประชุมกลางเดือนมกราคมนี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปอย่างชัดเจนว่าแนวทางช่วยเหลือที่ได้รับการเห็นชอบจะเป็นอย่างไร หากแนวทางที่ชาวไร่อ้อยเสนอได้รับการตอบสนองชาวไร่อ้อยคาดหวังว่าจะได้รับเงินเพิ่มค่าอ้อยงวดวันที่ 31 มกราคม 2561 ซึ่งเม็ดเงินจะได้รับในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561.-สำนักข่าวไทย