พรรคชาติไทยพัฒนา 5 ม.ค.-ประธานชมรมไทยปลอดภัย ชี้สถิติอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ที่ลดลงยังไม่น่าพอใจ เรียกร้องรัฐบาลเร่งปฏิรูปนโยบายดำเนินการตลอดปี ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรที่บริหารจัดการใหม่
นายนิกร จำนง ประธานชมรมไทยปลอดภัย กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในช่วง 7 วันอันตรายที่มีมากถึง 423 รายและผู้รับผิดชอบแถลงว่าลดลงอย่างน่าพอใจถึงร้อยละ 11 ว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่ลดลงจากปี 2560 ซึ่งมากผิดปกติถึงร้อยละ 25.79 ต้องพิจารณาจากค่าเฉลี่ยห้าปีย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2556 ถึงปี 2560 ที่มีค่าเฉลี่ย 386.4 ดังนั้น ในปีนี้เท่ากับสูงกว่าค่าเฉลี่ยกว่า 10 % ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากเกินไปกว่าที่ประเทศจะรับได้ และช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นช่วงทดสอบการปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศ เพื่อนำไปดำเนินการตลอดทั้งปีเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเป้าหมายการดำเนินการของผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
“รัฐบาลต้องดำเนินการเรื่องนี้ทั้งปี โดยต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ปฏิรูปทั้งนโยบายคือการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนน การบังคับใช้กฎหมายใหม่ และให้มีสถาบันเพื่อการจัดการระบบข้อมูลทางด้านการสอบสวนและบันทึกอุบัติเหตุต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์แก้ไขปัญหา ต้องจัดทำแผนแม่บทและประกาศใช้ ซึ่งว่างเว้นมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว ตลอดจนการจัดการกับเป้าหมายที่มีความสูญเสียมากที่สุด คือมอเตอร์ไซค์ที่สร้างความสูญเสียอยู่กว่าร้อยละ 70 อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นต้องนำมาตรการและวิทยาการใหม่ ๆ ที่ใช้กับนานาประเทศตามข้อตกลง The Global Goals ของสหประชาชาติมาบังคับใช้ อันได้แก่การใช้ Safety System การมีมาตรการความปลอดภัยทางถนนของเด็กและเยาวชน โดยต้องเพิ่มการเรียนรู้และเพิ่มความปลอดภัยของรถรับส่ง” ร่ยนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวว่า ทางชมรมฯจะทำหนังสือไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้เคยลงนาม MOU ร่วมกันในสมัยพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และกรมการขนส่งทางบกซึ่งเป็นภาคีเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยมาตรการเกี่ยวกับการลดความเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจำกัดความเร็วในเขตชุมชน ทั้งยังต้องจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วที่มีปัญหามาใช้เป็นการด่วน ขณะนี้ประเทศไทยถูกชี้ว่าเป็นประเทศที่มีอันตรายทางถนนเป็นอันดับหนึ่งของโลกโดยเว็บไซต์เดอะเวิลด์แอทลาส และหากว่าองค์การอนามัยโลก(WHO) ผู้เคยชี้ว่าประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตต่อประชากรแสนคน คิดเป็น 36.2 คน และเป็นอันดับสองของโลก โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิต 24,237 คน คิดเป็น 2,020 คน / เดือน หรือ 66 คน / วัน
“ปีนี้ประมาณเดือนพฤษภาคมซึ่งครบรอบสองปีที่ WHO จะสรุปยอดการเสียชีวิตในด้านนี้อีกครั้งหนึ่ง ถ้าปรากฏว่าไทยยังเป็นอันดับสองหรือไต่อันดับขึ้นเป็นแชมป์เช่นเดียวกับที่เว็บไซต์เดอะเวิลด์แอทลาสได้ชี้ไว้ จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเติบโตต่อรายได้ด้านการท่องเที่ยวของประเทศเพราะไทยเป็นประเทศท่องเที่ยว ดังนั้นรัฐบาลจะต้องดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนตลอดทั้งปี จะทำแค่ปีละสองครั้งไม่ได้” นายนิกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย
